รมว.ทส.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่-ลำพูน จับตาพื้นที่วิกฤตไฟป่า-ฝุ่นควัน ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ รวมพลังชุมชน-อาสา บูรณาการทุกภาคส่วน เฝ้าระวังไฟป่า

.








ติดตามสถานการณ์ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเครือข่ายไฟป่า โดยได้เดินทางไปอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ พร้อมมอบสิ่งของให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
.
จากนั้นเดินทางโดย ฮ. บินตรวจสภาพป่าและพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า เส้นทางจากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ถึงอุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.ลำพูน
.
พร้อมตรวจเยี่ยมกำลังพล และมอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ แก่ผู้ปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ “กลุ่มป่าเขื่อนภูมิพล” และเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความร่วมมือ การป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง กับ ชุมชนทั้งในและรอบพื้นที่ จำนวน 21 หมู่บ้าน ณ อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน โดยมีคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ เครือข่ายชาวบ้าน และนักเรียน เข้าร่วม
.
สถานการณ์ไฟป่า และฝุ่นควันเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันตก ผมจึงสั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมสนับสนุนดับไฟป่า เร่งกำจัดเชื้อเพลิงที่สะสมอยู่ จัดทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันการลามของไฟเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ป่า และเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมถึงส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าเตรียมพร้อมในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนการดับไฟป่าอย่างทันท่วงที ไม่ให้เกิดการลุกลาม และสามารถดับไฟได้อย่างรวดเร็ว
.
ซึ่งพบจุดไฟกระจายหลายจุดในพื้นที่ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ กำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบการเผา
.
กำลังเสริมอีกส่วนที่สำคัญ คือ กำลังของเครือข่ายพี่น้องประชาชน ชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าในพื้นที่ หรือเกิดให้น้อยที่สุด ซึ่งการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อบูรณาการผ่านกลไกการขับเคลื่อนในระดับท้องถิ่น ให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการไฟป่าและหมอกควัน เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การพัฒนาในมิติอื่น ๆ และเกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
.
ขอชื่นชมในความเสียสละ ทุ่มเท และความมุ่งมั่นของทุกคน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติภารกิจอันสำคัญ และขอย้ำ!! ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ ให้ช่วยกันป้องกัน สอดส่อง ดูแล และเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟป่าในพื้นที่ของพวกเราอย่างเต็มกำลังความสามารถ
.
ยืนยันว่า…เราให้การสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ รัฐบาลได้อนุมัติงบกลางในปี 2568 ทั้งด้านงบประมาณ อุปกรณ์ เครื่องมือ และการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ แล้ว เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
.
ภายใต้แนวทาง “รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด” โดยได้กำหนดมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่า แบ่งการบริหารจัดการเป็น 14 กลุ่มป่า ครอบคลุมพื้นที่ป่ารวม 44.71 ล้านไร่ มีเป้าหมายลดพื้นที่เผาไหม้ลงร้อยละ 25 จากปี 2567
.
โดยเฉพาะในกลุ่มป่าเขื่อนภูมิพล ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จังหวัดตาก เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง มีเนื้อที่รวม 3.38 ล้านไร่ ได้จัดตั้งจุดเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง 2,059 จุด จัดชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (เสือไฟ) 15 ชุด กำลังพล 345 นาย พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติจำนวน 1,690 หมู่บ้าน และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการติดตามสถานการณ์ไฟป่า มีทั้งโดรน(UAV) และระบบติดตามจุดความร้อน (Hotspot) ผ่านดาวเทียม
.
สำหรับการป้องกันไฟป่าของชาวบ้านในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน ได้พัฒนาระบบการป้องกันไฟป่าแบบมีส่วนร่วมที่เข้มแข็ง โดยจัดตั้ง “เครือข่ายชุมชนเฝ้าระวังไฟป่า” มีการจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอด 24 ชั่วโมง สร้าง “แนวกันไฟสีเขียว” ซึ่งชุมชนร่วมกันปลูกพืชที่มีความชื้นสูง พัฒนา “ภูมิปัญญาท้องถิ่น” ในการจัดการเชื้อเพลิง
.
และการลงนาม “บันทึกความร่วมมือ การป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่กลุ่มป่าเขื่อนภูมิพล” ระหว่างอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ร่วมกับชุมชนทั้งใน และรอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง 21 หมู่บ้าน มีเจตนารมณ์ร่วมกันในการเฝ้าระวัง ตรวจตรา ดูแลพื้นที่เสี่ยง ร่วมประชุมวางแผนและปฏิบัติการดับไฟป่า รวมถึงจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากไฟป่าแก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป
.
#จริงจังทุกหน้าที่ #เต็มที่ทุกบทบาท
.
ทีมข่าวจ.ประจวบฯ/กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
Share this content: