ตร.ไซเบอร์ รวบเครือข่าย “บัญชีม้าภาคอีสาน” ทางออนไลน์ ร้านอาหารตลาดเมืองอุดร ยึดโทร.ผูกแอปพลิเคชันธนาคารพร้อมใช้อีก 10 บัญชี พร้อมเงินสดล่อซื้อ 150,000 บาท





เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 21 ธันวาคม 2568 พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ นราศรี รอง ผกก.1 บก.สอท.3 ได้เปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวอุดรธานีว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.คมกฤช สุขไทย ผบก.สอท.3 ได้สืบทราบว่าได้มีการลักลอบซื้อ ขายบัญชีธนาคาร“บัญชีม้า”ผ่านสื่อสังคมออนไลน์หลอกลวงประชาชนในภาคอีสาน จำนวนมากเพื่อเป็นการตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณณพันธ์ วานิช์ชานันท์ ผกก.1 บก.สอท.3 พ.ต.ท.ประภาส ถ้ำเหม,พ.ต.ท.วันเฉลิม สีอ่อน,พ.ต.ท.กีรติ เหลืองอ่อน,พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ นราศรี รอง ผกก.1 บก.สอท.3, ให้ดำเนินการเร่งรัดสืบสวนปราบปราม
จนในวันที่ 20 ธันวาคม ได้ทำการสืบสวนผ่านช่องทางออนไลน์จนทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายบัญชีธนาคารพร้อมผูกแอปธนาคารพร้อมโทรศัพท์มือถือ พร้อมใช้งาน จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อ จำนวน 10 บัญชี พร้อมโทรศัพท์มือถือผูกแอปพลิเคชันพร้อมใช้งาน ในราคา 150,000 บาทโดยนัดรับกันที่ร้านอาหารในตลาดแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี ในเวลา 21.10 น.แล้วนำกำลังไปซุ่มโดยรอบในร้านอาหารดังกล่าว
จนกระทั่งในเวลาดังกล่าวได้มีหญิงอายุประมาณ 25-30 ปี 2 คน สวมเสื้อสีดำ กางเกงสีดำ เข้ามาหาสายลับในร้านอาหารดังกล่าวพร้อมนำ เมื่อมาถึงได้นำโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง พร้อมให้สายลับตรวจสอบแอปพลิเคชันธนาคารพร้อมใช้งาน อีก 10 บัญชี เมื่อสายตรวจสอบบัญชีเรียบร้อยแล้ว พบทั้ง 10 บัญชี เป็นบัญชีธนาคารใช้งานได้ปกติ สายลับจึงได้จ่ายเงินค่าบัญชีธนาคารพร้อมโทรศัพท์ จำนวน 4 เครื่อง ดังกล่าวเป็นจำนวน 150,000 บาท แล้วจึงได้ส่งสัญญานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เข้าจับกุมหญิงดังกล่าว
หลังจากที่แสดงหลักฐานในการจับกุมแล้วสอบสวนเบื้องต้นทราบชื่อหญิงทั้ง 2 คือ น.ส.วิชุดา(สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้นำโทรศัพท์พร้อมแอปพลิเคชันธนาคารมาส่ง กับน.ส.สุพรรณดา(สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เจ้าของบัญชีธนาคาร และเจ้าของบัญชีธนาคารซึ่งมารอรับเงินค่าจำหน่ายบัญชีเป็นชายอีก 2 รายคือนายธีรพัฒน์(สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และนายอภิรักษ์(สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้จัดหาบัญชีธนาคาร พร้อมยึด ของกลางโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง ผูกแอปพลิเคชันบัญชีธนาคารพร้อมใช้งาน 10 บัญชี และเงินสดล่อซื้อ จำนวน150,000 บาท
จากนั้นจึงได้ควบคุมผู้ต้องหาไว้พร้อมของกลางและแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนาม ของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆเพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง อุดรธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และในขณะเดียวกันทาง บช.สอท. จะได้ทำการสืบสวนขยายผลจับกุม และติดตามกรณีที่มีผู้กระทำความผิดลักษณะเช่นนี้ต่อไป
Share this content:
