“วีรบุรุษช่องอานม้า” จากแดนใต้ สละชีพปกป้องแผ่นดินไทย “เนิน 677 ช่องอานม้า” ถึงสนามบินนราธิวาส พิธีรับร่างฯ อย่างสมเกียรติ “มทภ.4” พร้อม จนท.ตบเท้าตั้งแถวรับ ก่อนเคลื่อนขบวนกลับไปทำพิธีฝังที่สุสาน ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ
สมรภูมิเดือด ไทย – กัมพูชา ในรอบที่ 2 ห้วงต้นเดือน ธ.ค.68 จนถึงขณะนี้ ไร้วี่แววจะยุติ กลับรุนแรงขึ้น กัมพูชามีความพยายามที่จะรุกรานอธิปไตยของไทย ไม่สนใจว่าจะสร้างความสูญเสียต่อพลเรือน โรงพยาบาล โรงเรียน













จุดที่เดือดและหนักสุดคือ บริเวณเนิน 677 ช่องอานม้า และสมรภูมิ ฐานมะนาว ช่องอานม้า บ้านน้ำยืน ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี จนทำให้ทหารไทยพลีชีพถึง 3 นาย บาดเจ็บอีก 3 นาย รวมทั้งที่สมรภูมิ ฐานมะนาว ช่องอานม้า พลีชีพอีก 1 นาย เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (13 ธ.ค.68)
ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 นาย ประกอบด้วย 1.จ่าสิบเอก ดำรงเกียรติ แก้วกระจ่าง, 2.จ่าสิบเอก ทวีรัตน์ รัตนบุรี, 3.พลอาสา มุสตากีม มาเจ๊ะมะ ทั้ง 3 นาย สังกัด กองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 เสียชีวิต ณ สมรภูมิ เนิน 677 ช่องอานม้า ส่วนรายที่ 4 พลทหาร กฤตฏิกร สร้อยระย้า สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 9 พัน.ร.91 (ร.9 พัน.1) เสียชีวิต ณ สมรภูมิ ฐานมะนาว ช่องอานม้า
วันนี้ (14 ธ.ค.68) เวลา 14.45 น.ที่หมวดบินเฉพาะกิจภาคใต้ กองการบินทหารเรือ ภายในท่าอากาศยานนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมด้วย นายบุญช่วย หอมยามเย็น ผวจ.นราธิวาส และส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแถวรอรับร่างของ พลอาสา มุสตากีม มาเจ๊ะมะ ” วีรบุรุษช่องอานม้า” ที่นำขึ้นเครื่องแตะรันเวย์ โดยมีพิธีอย่างสมเกียรติ
พลโท นรธิป แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบเงินเยียวยาแก่ สิบเอก หญิง พาอีซะห์ เจ๊ะแว มารดาของ พลอาสา มุสตากีม มาเจ๊ะมะ หลังจากนั้นได้นำร่างขึ้นรถหกล้อของทหาร เคลื่อนไปยังสุสานสะบือรัง (บ้านสุแฆ) ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ เพื่อทำพิธีฝัง ท่ามกลางการรอรับของประชาชนชาว อ.จะแนะอย่างล้นหลาม
ประวัติของ พลอาสา มุสตากีม มาเจ๊ะมะ อายุ 21 ปี ตำแหน่ง พลยิงอาวุธต่อสู้รถถัง สังกัด กองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 บรรจุเข้ารับราชการ 1 พ.ย.2566 จบการศึกษาชั้น ม.3 รร.สวนพระยาวิทยา ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ และชั้น ม.6 รร.เฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง จ.ยะลา เป็นบุตรของนาย พายัพ มะเจ๊ะมะ (บิดา) อายุ 61 ปี อยู่ ม.4 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา อาชีพทำสวนทุเรียน มารดาคือ สิบเอก หญิง พาอีซะห์ เจ๊ะแว อายุ 41 ปี อยู่ ม.3 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ อาชีพรับราชการเป็นทหารบก ที่ จ.สระบุรี
พิธีฯ ได้กล่าวสดุดีวีรบุรุษพลีชีพ ใจความว่า “พลอาสา มุสตากีม มาเจ๊ะมะ ซึ่งได้พลีชีพเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติตามพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดอุบลราชธานี ตามเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 10.00 นาฬิกา พลทหารมุสตากีม มาเจ๊ะมะ ได้ปฏิบัติหน้าที่ผลักดันอริราชศัตรูที่บริเวณยุทธภูมิ ช่องอานม้า เขตตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ขณะทำการวางตัวยิงสนับสนุน และตรวจการณ์จากบริเวณเนิน 677 ที่หมาย A โดยสนับสนุนด้วยการยิงจากตอนซุ่มยิง, ตอนต่อสู้รถถัง, ตอน ค.60 และอากาศยานไร้คนขับ หลังจากนั้นข้าศึกได้ทำการยิงเข้ามายังจุดที่ฝ่ายเราวางกำลังด้วยอาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง คาดว่าเป็นปืนไร้แรงสะท้อนขนาด 106 มม. เป็นผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และเสียชีวิตทันที 4 นาย 1 ในนั้นคือ พลอาสา มุสตากีม มาเจ๊ะมะ
ทั้งนี้ เมื่อ 20 – 28 กรกฎาคม 2568 ได้ปฏิบัติหน้าที่ ณ สมรภูมิรบภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ถือได้ว่าทหารกล้าผู้นี้ได้ต่อสู้อย่างเข้มแข็งกล้าหาญ เสียสละเลือดเนื้อชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทยอย่างแท้จริง สมควรที่ได้กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า ชายึดมุสตากีม ท่านได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างยิ่งใหญ่ สมชายชาญวีรบุรุษนักรบไทย เราขอรวมใจเพื่อนทหาร ตำรวจ ข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า สดุดีและไว้อาลัยแด่ดวงวิญญาณของทหารกล้าท่านนี้ที่ล่วงลับ ขอให้เอกองค์อัลลอย ซุบฮา นาอุว่าตาอาลา โปรดดลบันดาลสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และสถิตดวงวิญญาณของท่านในหมู่ผู้ศรัทธาด้วยความสงบสุข และโปรดได้รับรู้ว่า พวกเราคนไทยทุกคนจักระลึกถึงความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของท่านในครั้งนี้เสมอ พร้อมกับเชิดชูวีรกรรมให้อนุชนคนรุ่นต่อๆไป ได้รับรู้ว่า มีทหารกล้านาม มุสตากีม มาเจ๊ะมะ ได้เสียสละชีพป้องกันและรักษามาตุภูมิไทยด้านจังหวัดสระแก้ว ไว้เพื่อให้ทุกคนได้อยู่อย่างมีความสงบสุข”…..
นราธิวาส – ภาพข่าว
สัญฐิติ ขอจิตต์เมตต์
Share this content:
