มีวันนี้ได้เพราะพระองค์..จะไม่มีใครเหมือนท่านอีกแล้ว” ปธ.กลุ่ม




ศิลปาชีพกระจูดบ้านทอนอามาน เอ่ยถึง “แม่สิริกิติ์” ก่อนแหงนมองภาพข้างฝา พระองค์คือผู้ให้ “โอกาส” ราษฎรไทยพุทธและไทยมุสลิมชายแดนใต้เท่าเทียมกัน..”ก้ะไม่อยู่หลายวันนะ ต้องขึ้นไปกราบท่าน”









กลุ่มศิลปาชีพกระจูด “บ้านทอนอามาน” สถานที่รวมสตรีในพื้นที่ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่ร่วมกันผลิตงานหัตถกรรมจากกระจูด ซึ่งเป็นพืชตระกูลกก เริ่มต้นจากการทำผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมอย่างเสื่อ กระบุง กระเป๋า ก่อนจะพัฒนาเป็นรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้นตามความต้องการของตลาด
ที่ตั้งของกลุ่มฯ เลขที่ 340/3 ต.โคกเคียน มี นางพัชรินทร์ บินเจ๊ะมิง เป็นประธานกลุ่มฯ เป็นผู้ที่บริหารจัดการผลิตภัณฑ์กระจูด จนกลายเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ประสบความสำเร็จ เป็นตัวอย่างสำหรับวิสาหกิจชุมชนอื่นๆ ได้ศึกษาเรียนรู้ เพื่อนำไปต่อยอดกับผลิตภัณฑ์ของชุมชนต่างๆ
สำหรับกลุ่มกระจูด “บ้านทอนอามาน” เริ่มต้นจากชาวบ้านได้นำเสื่อกระจูดที่สานเป็นลวดลายสีสันงดงาม มาจัดวางเป็นลาดพระบาทรับเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทันทีที่พระองค์ทอดพระเนตรเห็นเสื่อกระจูดในครั้งนั้น เกิดความสนพระทัยเป็นอย่างมาก จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกลุ่มจักสานกระจูดขึ้น เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์งานหัตถกรรมพื้นบ้าน และส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น โดยมีครูที่ชำนาญการจักสานกระจูด สอนชาวบ้านในพื้นที่ ที่ใช้ลายโบราณ ได้แก่ ลายแม่น้ำ, ลายลูกแก้ว, ลายแหวน และลายลูกศร เป็นต้น
“พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ทรงรับกลุ่มกลุ่มกระจูด “บ้านทอนอามาน” เข้าโครงการศิลปาชีพฯ เพื่อพัฒนาฝีมือและยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมูลค่าสูงขึ้น ต่อยอดเรื่อยๆ จนเป็นศูนย์กลางในการสร้างงานสร้างรายได้อย่างมั่นคงยั่งยืน ปัจจุบันกลุ่มฯ มีสมาชิกรวม 15 คน กระจายงานตามออเดอร์ให้ไปทำที่บ้าน
นอกจากนี้ ที่ศูนย์ฝึกอาชีพฯ ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส มีครูที่เป็นเกษตรกรในพื้นที่ ส่งต่อองค์ความรู้ให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้ฝึกทำเสื่อกระจูด การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกระจูด และกลับไปจัดตั้งกลุ่มในหมู่บ้านของตนเอง กระจายครอบคลุมหลายอำเภอ ได้แก่ ต.กะลุวอ, ต.กะลุวอเหนือ, ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส, ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ, ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ รวมทั้ง ต.บางขุนทอง, ต.ศาลาใหม่และ ต.พร่อน อ.ตากใบ
นางพัชรินทร์ บินเจ๊ะมิง ประธานกลุ่มศิลปาชีพกระจูด “บ้านทอนอามาน” เผยความรู้สึกขณะที่มือยังคงสานกระจูด แต่มองไปที่รูปพระพันปีหลวงอย่างไม่ละสายตา
“พอทราบว่าพระองค์ท่านไม่อยู่แล้ว ทำอะไรไม่ถูก เป็นแม่ที่ให้โอกาสพวกเราได้มีอาชีพที่มั่นคง เมื่อก่อนก้ะลำบากมาก รับจ้างทำทุกอย่าง ท่านสอนและให้โอกาส ก้ะถึงมีวันนี้ ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ มีรายได้เลี้ยงครอบครัวส่งลูกเรียนสูงๆได้ ไม่เคยลืมบุญคุณท่าน สานกระจูดไปก็ดูรูปที่ก้ะเข้ารับรางวัล ดูข่าวจากโทรทัศน์ตั้งแต่วันที่ท่านสิ้น ก้ะเสียใจนะแต่พูดมากเดี๋ยวจะร้องไห้ พระพันปีหลวงรักและห่วงใยหมดทั้งพุทธมุสลิม จะไม่มีใครเหมือนท่านอีกแล้ว” ก่อนทิ้งท้ายว่า “ก้ะไม่อยู่หลายวันนะ ต้องขึ้นไปกราบท่าน”
นราธิวาส – ภาพข่าว
สัญฐิติ ขอจิตต์เมตต์
Share this content:
