การกวนข้าวทิพย์(กระยาทิพย์)เป็น พิธีกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมไทย ที่มีมาช้านาน โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสานของประเทศไทย ซึ่งมีขั้นตอนพิธีกรรมที่สำคัญในตอนเริ่มต้นกวนอยู่อย่างหนึ่ง คือ การใช้ “สาวพรหมจารี ” ซึ่งต้องคัดเลือกมาจากเด็กหญิงที่ยังไม่เป็นประจำเดือนมาจำนวน 4 คน นำมาบวชชีพราหมณ์ ( นัยว่า เป็นตัวแทนของนาง สุชาดา ผู้นำข้าวมธุปายาส พระพุทธเจ้า

) ก่อนที่จะนำวัตถุดิบเครื่องทิพย์ มาเทลงกะทะ ตั้งเตาไฟแล้วให้นางทั้ง ๔ คนนั้นเริ่มต้นกวนเบิกฤกษ์เป็นพิธี ก่อนที่จะให้คนอื่นๆได้มาร่วมกวนกันต่อไป
โดยในวันนี้(5 ตค.68)เมื่อเวลา 08.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานจากลานบุญลานธรรมวัดป่าบ้านกุดดู่ ต.กุดดู่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู พุทธศาสนิกชนชาวบ้านกุดดู่ นำโดย พระอาจารย์อุทัย จารุธมฺโม เจ้าอาวาสวัดป่ากุดดู่ นาย สุรัตน์
เย็นวัฒนา ผู้ใหญ่บ้านบ้านกุดดู่ หมู่ 2 นายเชาวลิต พลบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านกูดดู่ หมู่ 1 นายประวิช อนันตอภิญญาผู้ใหญ่บ้านกุดดู่ หมู่ 12 และนางจินตนา อุตรศรี ผู้ใหญ่บ้านบ้านกุดดู่ หมู่ 13 พุทธศาสนิกชนชาวบ้านกุดดู่ ร่วม 50 คนร่วมกันประกอบพิธีกวนข้าวกระยาทิพย์ ด้วยแรงพลังศรัทธา

ในขณะที่นางบานเย็น ภูเงิน แกนนำคนสำคัญของชาวบ้านกุดดู่ใต้ กล่าวว่าสำหรับประเพณีการกวนข้าวกระยาทิพย์ เป็นประเพณีที่ชาวบ้านภาคอีสาน ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน และได้เตรียมวัสดุอุปกรณ์มาตั้งแต่มื้อคืนวาน ซึ่งวันนี้ชาวบ้านที่นี่มักจะเริ่มทำกันในวันใกล้ออกพรรษา ด้วยการนำวัตถุดิบ และเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ขูดมะพร้าว ปอกเปลือกผลไม้ นำมาบด จนได้เวลาเป็นมงคลฤกษ์ ก็จะนำหญิงพรหมจารีย์ ที่คัดเลือกมาจาก ด.ญ.ที่ยังไม่เป็นประจำเดือน เพื่อนำมาบวช (นัยว่า เป็นตัวแทนของนางสุชาดา ผู้นำข้าวมธุปายาส มาถวายพระพุทธเจ้า)จากนั้นหญิงสาวพรหมจารีย์ ก็จะเป็นผู้เริ่มต้นกวน หลังจากนั้นก็ให้กลุ่มแม่บ้านและเยาวชนกวนต่อ ส่วนในช่วงเย็นจะเป็นพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เวียนเทียน สวดสะเดาะเคราะห์ สวดธาตุ ต่ออายุ เสริมดวงชะตา สวดภาณยักษ์

นางบานเย็นฯ กล่าวเพิ่มเติมว่ากิจกรรมดังนี้ ชาวบ้านกุดดู่ทำกันมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่พวกเราเป็นเยาวชนรุ่นหลังก็จะร่วมสืบสานต่อจากบรรพบุรุษ ปู่ย่าตายายของพวกเราเรื่อยมา โดยพิธีนี้มักจัดขึ้นในช่วงใกล้จะถึงวันออกพรรษา หรือ เดือน 11–12 ของทุกปี “กวนข้าวทิพย์”“ข้าวทิพย์” หมายถึง อาหารทิพย์หรือข้าวที่ถวายแด่พระพุทธเจ้าและเทวดาการ “กวนข้าวกระยาทิพย์” จึงหมายถึง การร่วมกันทำบุญกวนข้าว (คล้ายข้าวเหนียวกวน) เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ
สำหรับส่วนผสมหลัก ของข้าวทิพย์มีหลายอย่าง เช่น ข้าวเหนียว น้ำตาลมะพร้าว กะทิ ถั่ว งา มะพร้าวขูด กล้วย และเครื่องหอมต่าง ๆบางท้องถิ่นจะใส่ น้ำผึ้ง น้ำตาลทราย และผลไม้สุก เพื่อให้หอมหวานเป็นพิเศษ ตามความเชื่อและความสำคัญ เชื่อว่าเป็นการ ทำบุญใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมงานช่วย สืบสานประเพณีและความสามัคคีในชุมชนเป็นการ อุทิศบุญให้ผู้ล่วงลับ และ ถวายเป็นพุทธบูชา สำหรับพิธีกรรมโดยทั่วไปที่ทำกันในวันนี้ โดยช่วงเช้าพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นชาวบ้านร่วมกันกวนข้าวในกระทะใหญ่ (เรียกว่า “กวนข้าวทิพย์หม้อใหญ่”)เมื่อกวนเสร็จก็จะนำข้าวทิพย์ไปถวายพระในวัด และก็จะแบ่งแจกจ่ายให้ผู้ร่วมงานนำกลับบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล เป็นอันเสร็จพิธี

สรุป ความแตกต่างทางชื่อและที่มา
• ข้าวมธุปายาส: เป็นชื่อดั้งเดิมของข้าวที่นางสุชาดาหุงด้วยน้ำนมโคล้วนถวายพระโพธิสัตว์ (ก่อนตรัสรู้) ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติ แต่สำหรับ
• ข้าวทิพย์ ข้าวกระยาทิพย์: เป็นชื่อที่เรียกกันในภายหลัง โดยอนุโลมจากความเชื่อว่าข้าวมธุปายาสนี้เป็นของทิพย์อันประเสริฐ เมื่อมีการกวนข้าวมธุปายาสในปัจจุบัน จึงเรียกว่า “ข้าวทิพย์” หรือ “ข้าวกระยาทิพย์”
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ขตว.หนองบัวลำภู
Share this content:
