สุราษฎร์ธานี /////ชาวบ้านบนนา ต.ท่ากระดาน รวมกลุ่มตั้งวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนา มากว่า สิบปี เพราะต้องการบริโภคข้าวที่มีคุณภาพและมีสารอาหารที่มีคุณทางของร่างกาย ประสบความสำเร็จหลังดำเนินการมาหลายปีได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทเอกชนมอบรถไถนาและโดรนเพื่อการเกษตรไว้ใช้ในกลุ่ม





กลุ่มวิสาหกิจกลุ่มทำนา ต.ท่ากระดาน อ.คีรีรัฐนิคม เกิดขึ้นมาได้จากข้าราชการหลังเกษียรได้เพียง 1-2 ปี คิดว่าจะทำอย่างไรให้คนในหมู่บ้านได้กินข้าวที่มีคุณภาพและมีคุณค่าทางอาหารสูง อีกทั้งทีบ้านมีพื้นนาเพียงไม่กี่ไร่ ก็เลยคิดทำนาปลูกข้าวกินเองเพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน เพียงไม่กี่ไร่ โยใช้โรงสีข้าวในหมู่บ้านเป็นโรงสีขาวที่ไม่ต้องขัดข้าวให้ขาว(ทำข้าวกล้อง) ไว้รับประทานเอง หลังจากที่เหลือก็ลองบรรจุใส่ถุงขายตามงานต่างๆเพื่อหารายได้เสริมและขายให้เพื่อบ้านที่เขายากกิน จากนั้นก็ได้คิดร่วมกลุ่มการทำนาขึ้น เริ้มแรกมีเพียงไม่กี่คน ปัจจุบันมีสมาชิกเกือบ 30 คน พื้นที่ปลูกข้าวกว่า 200 ไร่ในหมู่บ้าน ในแต่ละปีข้าวที่เหลือจากรับประทานก็จะนำไปขายเพื่อนำเงินมาเข้ากลุ่มเพื่อแจกจ่ายให้กับสมาชิกอีกครั้งหนึ่ง รายได้อาจจะได้ไม่มากแต่มีความสบายใจในแต่ละวันสมาชิกได้พบปะกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ อีกทั้งได้กินข้าวที่เราทำเองและข้าวก็มีคุณภาพ ซึ่งข้าวที่ปลูกเป็นพันธุ์ปทุมธานี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมการข้าวสุราษฎร์ธานี จากวันนั้นถึงวันนี้กว่า 10 ปีที่ได้ร่วมกลุ่มกันมาจนทางบริษัทสยามคูโบต้าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้มอบเครื่องจักรเพื่อไว้ไถ่นาและโดรนการเกษตรให้กับกลุ่มเพื่อนำไปใช้ในการผลิตข้าวเพื่อบริโภคและจำหน่ายให้กับคนที่เขาสนใจบริโภคข้าวกล่อง ต่อไป และในวันนี้ทางทางบริษัทสยามคูโบต้าได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนา ตำบลท่ากรานโดยมีนางสาวศรินดา ปาละคะเชนทร์ นายอำเภอคีรีรัฐนิคม มาเป็นสักขีพยานในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่ม
นายอนุพงศ์ ตันสกุล ผู้จัดการอาวุโสภาคกลางและภาคใต้ บริษัทสยาม คูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทได้ดำเนินโครงการคูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 9 ที่ผ่านมาได้มอบไปแล้วกว่า 260 กลุ่มทั่วประเทศ และในปีนี้ได้มีการมอบจำนวน 51 โครงการ ในส่วนของสุราษฎร์ธานีมี 3 โครงการที่นี้เป็นโครงการที่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนา ตำบลท่ากระดาน โดยเบื้องต้นจะดูความพร้อมของชุมชน จำนวนสมาชิก และผู้นำต้องมีความเข้มแข็ง และการจัดการที่ดี ซึ่งในวันนี้ได้มอบเครื่องจักรและโดราเพื่อการเกษตรมูลค่า 1.5 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาการทำเกษตรด้วยการบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุดพัฒนาต่อยอดธุรกิจการเกษตรของชุมชนให้เจริญเติบโตตลอดจนเป็นพันธกิจร่วมกันของทุกภาคส่วน
นางปราณี เกื้อด้วย อายุ 72 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนาตำบลท่ากระดาน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังจากเกษียรมาแล้วเมื่อสิบปีที่ผ่านมาไม่รู้จะทำอะไรมีพื้นที่นาเดิมอยู่แล้วที่กว่าทิ้งไว้เฉยๆจึงคิดทำนาเพื่อนำข้าวมากินเองไม่ได้หวังอะไรใช้โรงสีข้าวในชุมชน หลังจากทำอยู่ประมาร 2-3 ปีจึงคิดร่วมกลุ่มเพื่อที่จะให้เพื่อนบ้านได้กินข้าวที่มีคุณภาพและประโยชน์ต่อร่างกายอีกทั้งได้ประหยัดไปด้วยจึงได้ร่วมกลุ่มกันปัจจุบันมีสมาชิกเกือบ 30 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ มีพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 200 ไร่ ส่วนใหญ่จะทำนาปี ข้าวที่ได้จะนำไปรับประทานภายในครัวเรือนส่วนที่เกลือก็จะทำเป็นข้าวกล่องเพื่อนำไปขายในราคากิโลกรัมละ 60 บาท รายได้ที่ได้จากการขายข้าวก็จะนำมาแบ่งบันกันในสมาชิก โดยแบ่งกันปีละครั้ง ก็ถือว่าเป็นรายได้อีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการทำสวนยางและปาล์มน้ำมัน และก็ดีใจวันนี้ที่ทางบริษัทได้นำเครื่องจักรมาให้กับกลุ่มเพื่อใช้ในการทำนาและต่อยอดไปยังเกษตรอื่นๆต่อไป
Share this content:
