คาร์บอมบ์ 2 ถังแก๊ส กว่า 100 โล พบเป็นคันเดียวกับที่แจ้งเฝ้าระวัง แนวร่วมเอาป้ายปลอมสวมทับ ด้าน ‘มทภ.4’ สั่งด่วน! ปิดทุกช่องทาง หวั่นหนีข้ามแดน














วันนี้ (21 ส.ค.68) พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4 ลงพื้นที่ ฐานฯ ชคต.ศาลาใหม่ บ.โคกมะเฟือง อ.ตากใบ หลังช่วงคืนที่ผ่านมา สมุน BRN.นำคาร์บอมบ์ ที่ประกอบระเบิดก่อนบรรจุในถังแก๊สหุุงต้ม น้ำหนักประมาณ 80 – 100 กก.และถังแก๊สปิกนิกอีก 1 ลูก น้ำหนักประมาณ 25 – 30 กก.จุดขนวนด้วยรีโมทคอนโทรล ซุกไว้ใต้เบาะหลังและกระโปรงท้ายของรถยนต์เก๋ง (ตามภาพจากวงจรปิด) ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กต 3157 นครศรีฯ คนขับใช้เส้นทาง บ้านสะปอม ต.ไพรวัน อ.ตากใบ เมื่อใกล้ถึง ชคต.ศาลาใหม่ ผู้ขับได้รีบลงจากรถแล้ววิ่งไปขึ้นรถ จยย.คันที่ขับตามมาหลบหนีไป ทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จ.นราธิวาส ปล่อยให้รถเก๋งคันดังกล่าวไหลไปตามแรงเครื่องยนต์ จนพุ่งชนแนวกระสอบทรายบริเวณจุดตรวจ คนร้ายอีกชุดจึงได้จุดชนวนระเบิดขึ้น จนเสียงดังสนั่น
อานุภาพของระเบิดกว่า 100 กก.ทำให้บริเวณจุดตรวจ รวมถึงรายยรอบฐานด้านหน้าพังยับเยิน ทิ้งร่องรอยของซากคาร์บอมบ์ และเศษซากต่างๆ เต็มถนนฝั่งซ้ายมือ ส่วนเจ้าหน้าที่ อส.ประจำฐาน ชคต.ศาลาใหม่ ถูกแรงอัดเข้าอย่างจัง ได้รับบาดเจ็บรวม 5 นาย และชาวบ้านอีก 1 คน ประกอบด้วย
1. นายหมู่โท อับดุลมานัส นิมุ อายุ 44 ปี
2. อส.เอก มามะซาบรี มิงยีนา อายุ 40 ปี
3. อส.เอก ซูไหรี เจ๊ะแซ อายุ 38 ปี
4. อส.เอก แวอามะ ยูโซ๊ะ อายุ 34 ปี
5. อส. อิสมะแอ ปะจูสะลา อายุ 40 ปี
และ 6.นายนิปัดลี ด่วนอุมา อายุ 72 ปี ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง
ทั้งนี้ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการด่วน! ให้ปิดทุกช่องทางหลบหนี ให้คุมแนวตะเข็บชายแดนเป็นสองเท่า ย้ำการปฏิบัติให้บูรณาการทุกฝ่ายป้องกันชุมชนของตนเองให้เข้มแข็ง พบเห็นรถต้องสงสัย บุคคลแปลกหน้า วัตถุต้องสงสัย ให้รีบแจ้งหน่วยกำลังในแต่ละพื้นที่ จะได้ไม่เกิดเหตุซ้ำซ้อน
ทางด้าน พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ช่วยราชการ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า ช่วงเช้าได้ไปตรวจสอบพร้อมกับ EOD.และ พฐ.พบว่า คาร์บอมบ์ที่คนร้ายนำมาใช้ครั้งนี้ ตัวรถเป็นคันเดียวกับที่แจ้งเฝ้าระวังคือ รถเก๋งโตโยต้า วีออส จากเดิมสีเทา แต่คนร้ายไปสาดสีเป็นขาว ป้ายทะเบียน กต 3157 นครศรีฯ ที่ตกในที่เกิดเหตุ ตามฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก พบว่าเป็นป้ายที่มีนางพรทิพย์ แพรกทอง อายุ 64 ปี ภูมิลำเนา อ.นาบอน จ.นครศรีฯ เป็นผู้ครอบครอง โดยคนร้ายทำป้ายปลอมมาสวมแทนเพื่ออำพราง
“จากการที่แนวร่วมนำรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาดัดแปลง ทั้งสาดสี สวมป้ายทะเบียนที่หมวดอักษรและเลขทะเบียนตรงกับคนที่อยู่นครศรีธรรมราช แต่เป็นป้ายปลอมที่ทำขึ้นมาใหม่ รวมทั้งมีการขูดลบเลขเครื่องยนต์กับเลขตัวถังจนเกลี้ยง”
ส่วนรถยนต์เฝ้าระวังที่ถูกนำมาสาดสีเป็นขาวแทนสีเทา เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ คือรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา ป้ายทะเบียน 7กร 7401 กรุงเทพฯ เลขตัวรถ MR2B29F3801138476 เลขเครื่อง 2NR5249813 ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ตัดรถเฝ้าระวังไป 1 คันจากเหตุครั้งนี้ แต่ได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังป้ายทะเบียน 7กร 7401 กรุงเทพฯ แทน
นราธิวาส – ภาพข่าว
สัญฐิติ ขอจิตต์เมตต์
Share this content:
