ชาวบ้านหนองจานชายแดน สระแก้ว เฮดีใจ ขอบคุณแม่ทัพกองทัพภาคที่ 1 เจ้าหน้าที่ทหาร ที่นำรั้วลวดหนามมาล้อมชายแดนอย่างชัดเจน โดยชาวบ้านมีความหวังจะได้พื้นที่ที่เคยเป็นของคนไทยกลับมาเป็นของคนไทยอีกครั้งนึง หลังจากเสียสิทธิ์มานานกว่า 30 ปี







(19 สิงหาคม 2568 )ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาทางด้านอำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว พบกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามบริเวณชายแดนกำลัง นั่งวิพากษ์วิจารณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนที่กำลังตึงเครียดอยู่ในขณะนี้ ที่สำคัญมีประเด็นเรื่องที่ดินทำกินของคนไทยที่ชาวกัมพูชาเข้ามายึดครองเมื่อ 30 กว่าปี ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นประเด็นร้อน
โดยนางวราพร ทอง อายุ 63 ปี ชาวบ้าน หนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จ.สระแก้ว เล่าให้ฟังว่า ตนอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ตั้งแต่เกิด โดยได้รับจัดสรรสิทธิ์ที่ดินทำกินครัวเรือนละ 14 ไร่ ในพื้นที่ติดชายแดนแต่เนื่องจาก ชาวกัมพูชาอพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่บางส่วน ตนจึงไม่สามารถเข้าไปประกอบอาชีพได้ แม้ว่าจะมีเอกสารสิทธิ์ในการถือครองที่ดินเป็น ภาพทบ.5 และได้เสียภาษีที่ดินถูกต้องตามกฎหมายเป็นประจำทุกปี ซึ่งแต่กอนนั้น ได้เคยรวมตัวไปร้องกับทางการมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ล่าสุด มีเจ้าหน้าที่ทหารไทยนำรั้วลวดหนามมาล้อมพื้นที่ที่มีปัญหาทำให้ชาวกัมพูชาถอยกลับเข้าไปในประเทศกัมพูชาหมด จึงทำให้พวกตนพอมีความหวังว่าจะได้ที่ดินทำกินกลับมาเป็นของพวกตนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่1 ทหารกองกำลังบูรพาที่ดำเนินการอย่างเข้มงวด สำหรับประเด็นที่กำลังมีปัญญาเรื่องชาวเขมรมาเรียกร้องให้ฝ่ายไทยรื้อลวดหนามนั้น ตนสังเกตุว่าคนที่มาเรียกร้องนั้นไม่ใช่คนในพื้นที่
ด้านลุงฉลอง อายุ 78 ปี เจ้าของที่ดินเช่นกัน ที่ได้ถูกเขมรยึด เล่าว่า เขมรมันถอนหลักเขตออกไป ประมาณ 3-4 หลักตั้งแต่หลัก 44-46 และมันมาล้อมรั่วเอาไว้เลยแถมขมขู่เราห้ามยุ่งในเขตนี้เป็นของเขมร จะเอาลูกปืนหรือไม่ ทั้งๆที่เป็นที่นาของเรา เข้าไปเอาไม่ได้ น้อยใจมากทางการไม่แจ้ง เรามีทั้งเอกสารการครอบครองใบ ภทบ.5 แต่ทำอะไรไม่ได้ ร้องเรียนไปทางการก็ว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน รอไปก่อนต้องใช้เวลา
ส่วนทางด้านผู้ใหญ่บ้านกุดผือ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านอ่างศิลา บอกว่าชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับที่ดินทำกินที่อยู่ติดกับประเทศกัมพูชามาเป็นเวลานานกว่า 30 ปีแล้ว เนื่องจากเข้าไปทำกินไม่ได้ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารนำรั้วลวดหนามมาวางบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชา ชาวบ้านจึงมีความหวังที่จะได้ที่ดินทำกินกลับมาเป็นของตนเองอีกครั้ง และต้องขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา ที่ดำเนินการปกป้องอธิปไตยอย่างเข้มงวด
รายงานข่าวจาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว
Share this content:
