หอการค้าไม่ขัดข้องให้ผู้ลี้ภัยออกทำงานนอกศูนย์ฯ
หอการค้าเผย หากอนุญาตให้ผู้อพยพในศูนย์ ฯ ออกมาทำงานรับจ้างนอกพื้นที่ และปลูกผักรับประทาน หลังถูก TBC และ IRC ตัดเงินช่วยเหลือ หอการค้าไม่ขัดข้องเห็นด้วย แต่ต้องมีมาตรการควบคุมที่ชัดเจน







เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 จากกรณี นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่าจะนำแรงงานจากกลุ่มผู้อพยพ มาทดแทนแรงงานกัมพูชา ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว 9 แห่งแนวชายแดน โดยมีกำลังแรงงานอยู่ประมาณ 4.2 หมื่นคน ซึ่งจะนำมาทดแทนแรงงานกัมพูชาโดยต้องออกประกาศของกระทรวงมหาดไทยและประกาศของกระทรวงแรงงานรองรับ เพื่อให้แรงงานกลุ่มนี้ออกมาหางานทำภายนอกได้ หลังจาก TBC และ IRC หยุดให้การช่วยเหลือด้านอาหารและสุขภาพตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นั้น
คุณชนเขต บุญญขันธ์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ในความหมายของกระทรวงแรงงานคือให้ผู้อพยพทุกแห่งตามแนวชายแดนไทยออกไปทำงานนอกศูนย์ได้ เพื่อทดแทนแรงานกัมพูชา แต่หอการค้าแม่ฮ่องสอนขอออกความคิดเห็นเฉพาะในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเท่านั้นเนื่องจากถูกตัดงบการช่วยเหลือและมีความเดือดร้อน ซึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีศูนย์พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบ จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย พื้นที่พักพิงบ้านใหม่ในสอย ต.บางปางหมู อ.เมือง มีผู้หนีภัย จำนวน 1,719 ครัวเรือน จำนวน 9,642คน พื้นที่พักพิงบ้านบ้านแม่สุริน ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม มีผู้หนีภัยจำนวน 407 ครัวเรือน จำนวน 1,831 คน พื้นที่พักพิงบ้านแม่ลามาหลวง ต.สบเมย มีผู้หนีภัย จำนวน 1,692 ครัวเรือน จำนวน 9,071 คน พื้นที่พักพิงบ้านแม่ละอูน ต.สบเมย อ.สบเมย ผู้หนีภัย จำนวน 1,513 ครัวเรือน จำนวน 8,053 คน
ซึ่งศูนย์พักพิงในแม่ฮ่องสอนที่เดือดร้อนและถูกตัดงบหยุดการช่วยเหลือจาก IRC ส่วน TBC ถูกตัดงบช่วยเหลือประมาณ 60 % มีอยู่เพียง 2 ศูนย์ ได้แก่ พื้นที่พักพิงบ้านใหม่ในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง และพื้นที่พักพิงบ้านแม่สุริน ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม
คุณชนเขต บุญญขันธ์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า แรงงานกัมพูชาในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย หากจะมีการอนุญาตให้ผู้หลบหนีภัยในศูนย์พักพิงฯ ทั้ง 4 ศูนย์ตามชายแดนแม่ฮ่องสอน ออกไปทำงานนอกศูนย์ ฯ ได้ หอการค้าแม่ฮ่องสอนเห็นด้วย ไม่ขัดข้อง เป็นการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แต่ก็ต้องดูความต้องการแรงงานไทยในพื้นที่ด้วย ในช่วงนี้เป็นช่วงโลซีซั่นช่วงฤดูฝน ความต้องการแรงานในพื้นที่มีเพียงพออยู่แล้ว แต่ในอนาคตหรือในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ฤดูกาลภาคเกษตร และแรงงานรับใช้ในบ้าน รวมถึงแรงานตามร้านขายของทั่วไป ในช่วงดังกล่าวแม่ฮ่องสอนมีความต้องการแรงงานจำนวนมาก ส่วนแรงานภายในศูนย์อพยพ ที่จะออกมาทำงานนอกศูนย์เป็นแรงานประเภทไหน มีทักษะ หรือแรงงานเฉพาะในภาคเกษตร หรือแรงานระดับธุรการใช้คอมพิวเตอร์ ในความเข้าใจของผู้ประกอบการแรงานภายในศูนย์พักพิง ฯ เราไม่เคยมีข้อมูลภายในศูนย์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลยว่า เขาถนัดงานประเภทไหน อย่างเช่นในหมู่บ้านในสอยซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับศูนย์พักพิง ฯ มีหมู่บ้าน มีวัด มีโรงเรียน มีร้านก๋วยเตี๋ยว การที่เขาออกมาทำงานแค่ตรงนั้น อาจจะไม่ตอบโจทย์คนจำนวนมากก็ได้ ซึ่งมีความจำเป็นที่เขาอาจจะทะลักเข้ามาในภาคการเกษตรทำไร่ ทำสวน ทำนาในพื้นที่ใกล้เคียงหรือทะลักเข้ามาในส่วนของภาคบริการ หรือแม้แต่แรงานในบ้านเรือน เป็นแม่บ้าน อีกอย่างเรื่องภาษาสำคัญที่สุด คนในแคมป์ผู้ลี้ภัยโดยทั่วไปจะพูดภาษาอังกฤษ และภาษาพื้นที่ถิ่นของตนเอง หากจะทำงานในแม่ฮ่องสอนก็จะต้องสื่อสารภาษาไทยได้ด้วย ฝีมือแรงานจะต้องมีการพัฒนาให้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการด้วย การทำงานจะให้ไปเช้า เย็นกลับ หรือจะอยู่กับนายจ้างได้เลย และลักษณะการติดตามตัวเขามีอะไรที่จะเป็นหลักฐาน เช่นบัตรประจำตัวผู้หนีภัย หรือบัตรอะไรก็ได้ ที่สามารถติดตามตัวได้ สมมุติว่าเกิดเหตุใด ๆ ก็แล้วแต่ ต้องติดตามได้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ชื่ออะไร
ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ว่าจ้างและตัวของแรงงานด้วย ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ต้องคุยกันให้บรรลุข้อตกลงก่อน ถ้าเราจะรับเขาจริงมีขั้นตอนอะไรบ้าง รวมถึงแม้แต่ค่าแรง จะใช้กฎหมายข้อไหนมาควบคุม หรือจะใช้ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศไทย ถ้ากระทรวงทะบวงกรมต่าง ๆ มองเห็นแล้วว่าสามารถรับได้ให้เขามาทำงานในประเทศไทยได้ ก็ต้องย้อนกลับไปทั้งเรื่องพัฒนาฝีมือแรงงาน ความพร้อมด้วยวัฒนธรรมเราด้วย ถ้าทุกอย่างพร้อมมีขั้นตอนในการควบคุมดูแล ค่าจ้างแรงงาน มีบัตรติดตามตัวได้ เขาอยู่กับเราหรือไปกลับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถ้าทุกอย่างลงตัวแล้ว เราก็มาตรวจสอบข้อมูลความต้องการของผู้ประกอบการในพื้นที่ว่าใครมีความต้องแรงงานประเภทไหน จริง ๆ แล้วทางผู้ประกอบการไม่ได้ขัด ไม่ได้ปฏิเสธในการรับแรงงานจากผู้หลบหนีภัยในศูนย์มาทำงาน เพียงแต่เมื่ออนุญาตให้เข้ามาแล้วจะกระทบกับแรงงานไทยหรือเปล่า เพราะลำดับความสำคัญลำแรกเวลานี้เราต้องช่วยเหลือคนในบ้านเราก่อน ต้องดูว่าแรงานในบ้านเรามีผู้ตกงาน ผู้ว่างงานกีคน และหางานให้คนไทยเราทำงานก่อน หลังจากนั้นถ้ามีแรงงานขาด และมีความต้องการเพิ่มขึ้น มีการเตรียมแรงงานไว้ชัดเจนจึงให้ผู้ประกอบการแจ้งความต้องการแรงงาน
ส่วนกลางจะต้องมีมาตรการที่ชัดเจนลงมาก่อน เพราะเราเป็นห่วงเรื่องการค้ามนุษย์ เขาอยู่ได้เฉพาะแม่ฮ่องสอนหรือเปล่า หรือจะให้เขาออกไปทำงานนอกพื้นที่ไกล ๆ ได้ด้วย เพราะว่าในปัจจุบันอย่างเช่นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาในประเทศไทย เขาเข้ามาทุกด้านไม่เฉพาะจังหวัดที่ติดชายแดนเท่านั้น แต่ก็ทะลักเข้าไปจนถึงกรุงเทพ ฯ บางทีทะลุไปถึงมาเลเซียก็มี ดังนั้นส่วนกลางต้องมีการควบคุมที่ชัดเจน รัดกุม เพราะในศูนย์พักพิงจะมีแรงงานหลายหมื่นคนทีอยู่ในช่วงวัยทำงาน ตั้งแต่แม่ฮ่องสอน ตาก ราชบุรี กาญจนบุรี รวมกันแล้วเยอะมาก เฉาพะในแม่ฮ่องสอน ในวัยทำงานก็น่าจะเป็นหมื่นเหมือนกัน เมื่ออนุญาตให้ออกมาทำงานได้จะต้องจำกัดขอบเขต เพราะเป็นการควบคุมที่ค่อนข้างจะยาก เช่นศูนย์พักพิงในในสอย อ.เมือง และศูนย์พักพิงแม่สุริน อ.ขุนยวม จะให้อยู่เฉพาะพื้นที่ระดับไหน หรือข้ามเขตอำเภอได้ ถ้าเราควบคุมได้ไม่ดีตั้งแต่ต้น เหตุต่าง ๆ เหล่านั้นเกิดตามมาแน่ เดียวก็มีการค้าแรงงาน ค้ามนุษย์ สิ่งนี้เราเป็นห่วงมาก ผู้หลบหนีภัยภายในศูนย์ก็น่าเห็นใจ เมื่อหยุดการช่วยเหลือจากต่างประเทศ เขาก็ต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด ต้องมีข้าวกิน มีอาหารกิน มียารักษาโรค ถ้าเราไม่ควบคุมดี ๆ จะห้ามยากที่จะไม่ให้เขาทะลักไปในเมืองอื่น ๆ โดยเฉพาะเมืองใหญ่ ๆ ที่มีความต้องการแรงงานจำนวนมาก
คุณชนเขต บุญญขันธ์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน การจัดพื้นที่ทำกินก็ต้องดูว่าเป็นพื้นที่แบบไหน อยู่ใกล้ๆ ศูนย์พักพิง หรืออยู่นอกศูนย์ เพื่อให้เขาปลูกผักเพื่อบริโภค ไม่ได้เป็นการไปแย่งพื้นที่ หรืออาชีพชาวบ้าน และถ้าหากต้องการให้เขาเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู ปลูกผักสวนครัว เพื่อลดความขาดแคลนที่ขาดการช่วยเหลือ ได้รับการตอบสนองก่อน จะเอางบประมาณที่ไหนไปช่วย ใครจะเป็นคนจตัดสรรงบประมาณมาให้ ถ้าจะให้เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ก็ต้องมีค่าพันธุ์ไก่ พันธุ์หมู ถ้าเฉพาะให้ปลูกผักกินภายในครัวเรือน เหลือส่งขายนอกศูนย์ฯ ถ้าทำได้ก็จะดี แต่สุดท้ายก็อยู่ที่งบประมาณรวมถึงการจัดสรรพื้นที่ด้วย
—————————————
นายทศพล บุญพัฒน์ / แม่ฮ่องสอน
Share this content:
