ธารน้ำใจจากชาวสุราษฎร์ธานี เครื่องอุปโภคและบริโภค  ล็อตแรก จำนวน 8 คันรถสิบล้อ มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท เดินทางมุ่งสู่จังหวัดสุรินทร์ และอุบลราชธานี  เพื่อส่งมอบให้ทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา   และประชาชนที่อยู่ตามศูนย์พักพิง

ธารน้ำใจจากชาวสุราษฎร์ธานี เครื่องอุปโภคและบริโภค  ล็อตแรก จำนวน 8 คันรถสิบล้อ มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท เดินทางมุ่งสู่จังหวัดสุรินทร์ และอุบลราชธานี  เพื่อส่งมอบให้ทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา   และประชาชนที่อยู่ตามศูนย์พักพิง

 วันนี้ที่บริเวณข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายนันทวัช   เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีพร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งสามท่าน นายกองค์องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเทศมนตรีเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ เอกชน นักเรียนนักศึกษา มาร่วมในพิธีเปิดปล่อยขบวนคาราวาน โครงการ ร่วมปันน้ำใจ  คนไทยไม่ทิ้งกัน รถบรรทุกสิบล้อ จำนวน 8 คัน นำเครื่องอุปโภค-บริโภค เพื่อไปช่วยเหลือทหารที่ปฎิบัตหน้าที่ตามแนวชายแดน ประชาชนที่อยู่ตามศูนย์พักพิงที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ในในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดอุบลราชธานี มียอดบริจาค จำนวน 4 ล้านบาท  ประกอบด้วย เครื่องอุปโภคและบริโภค  นม กระดาษทิชชู่ สบู่ ขนม ยากันยุง ผ้านวมแป้ง เสื้อผ้า น้ำยางล้างจาน รองเท้า นมกล่อง ยาสีฟัน ขนม แพมเพิส น้ำดื่น และอีกหลายรายการ ได้แยกประเภทไว้แล้ว โดยการรับบริจาคในครั้งนี้จะนำไปมอบให้เป็นขวัญและกำลังใจแก่ทหารที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดนและพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชานแดนไทย-กัมพูชา  ซึ่งในพิธีเปิดปล่อยขบวนคาราวานดังกล่าวทางผู้ที่เดินทางมาร่วมมอบในวันนี้ต่างก็พร้อมร้องเพลงชาติไทย และเพลงเราสู้ หลังจากนั้นทางเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้พรมน้ำมนต์ให้กับคนที่มาร่วมและพนักงานขับรถที่นำสิ่งของไปมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อเป็นศิริมงคลพร้อมกับให้เดินทางด้วยความปลอดภัย 

 ด้าน นายนันทวัช   เจริญวรรณ   รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  กล่าวว่า ในวันนี้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ส่งมอบเครื่องอุปโภค-บริโภคที่ได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 68 แต่ในวันนี้ที่จัดส่งไปก่อนเนื่องจากยังมีประชาชนนำของเข้ามาบริจาคเป้ฯจำนวนมากทางจังหวัดจึงจำเป็นที่จะต้องทะยอยไปมอบให้ก่อน จำนวน 8 คัน เพื่อบรรทุกสิ่งของไปยังจังหวัดชายแดนกัมพูชา โยจุดแรกที่จะไปคือจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 3 คัน และจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 5 คัน  ส่วนของที่ยังเหลืออยู่ที่สุราษฎร์ธานี ทางจังหวัดก็ยังเก็บรวมรวมคาดว่ายังได้อีกประมาณ 3-4 คันรถบรรทุก เพื่อนำไปมอบให้อีกในวันถัดไป ซึ่งทางจังหวัดเองก็ขอขอบคุณพี่น้องชาวสุราษฎร์ธานี ที่นำสิ่งของมาบริจาคเพื่อช่วยเหลือประชาชนและทหารที่อยู่ตามแนวชายแดนหรือที่อยู่ตามศูนย์พักพิงต่อไป