หนองบัวลำภู

“ดอกกระเจียวอุษา ลำภู” จากไม้ป่าสู่พืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ชุมชนคนลุ่มภู”เป็นทั้งไม้ประดับและไม้มงคล เบ่งบานรับหน้าฝนพบความงามที่หลากหลายในงาน”เกษตร แฟร์ ของดีเมืองลุ่มภู ”16 -20 กค.นี้ที่สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู







ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างวันที่ 16-20 กค.68 จังหวัดหนองบัวลำภู โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมภาคีเครือข่าย ร่วมใจกันเปิดบ้าน เปิดเมือง เกษตรแฟร์ ของดีเมืองลุ่มภู”ชม ช้อป ซิม แชร์ของดีเจาก 6 อำเภอของจังหวัดหนองบัวลำภู “จากท้องนา สู่พาข้าว” ณ สนามกีฬากลางองค์การบริหารจังหวัดหนองบัวลำภู รับรองว่างานนี้มี ว้าว !! แน่นอน
โดยภายในงานดอกกระเจียวอุษา ลำภู พร้อมจะสร้างสีสันให้กับงานเกษตรแฟร์ ของดีเมืองลุ่มภู นายอำพน ศิริคำ เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู เชิญผู้รักในความสวยงามและของมงคล ไปสัมผัสกับกิจกรรมการประกวด”กระเจียวอุษา” สร้างกระแสการรับรู้ความเป็นมาของกระเจียวอุษา เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการเพาะปลูกให้เป็นพืชไม้ประดับ ไม้มงคล นำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ ก่อให้เกิดรายได้ พบกับการประกวดกระเจียวอุษา รุ่นนางพญา และ รุ่นดาวรุ่ง ภายในโดม A ภายในสนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู
นายอำพน ศิริคำ เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู บอกว่าภายในงาน”เกษตรแฟร์ ของดีเมืองลุ่มภู” จะมีการจำหน่ายราคาเริ่มต้นจากกระถางละ 250 – 25,000 บาท ราคาจะถูกจะแพงอยู่ที่สีของดอกกระเจียวอุษาแต่ละต้น พร้อมมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดกระเจียวอุษา งานนี้เครือข่ายอนุรักษ์กระเจียวอุษาจังหวัดหนองบัวลำภู วิสาหกิจชุมชนอุษาลำภูบ้านภูพานทอง เข้าร่วมพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปลูกและแพร่พันธุ์ดอกกระเจียว
กระเจียวอุษา หรือ ว่านพญาไก่ขัน เป็นไม้ดอกที่มีดอกขนาดใหญ่ สีแดงเข้มสวยงามมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นไม้ดอกไม้ประดับในเชิงเศรษฐกิจ สร้างอาชีพสร้างรายได้ อนาคต กระเจียวอุษา”ลำภู” จะเป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูงที่จะยกระดับรายได้ของชุมชนคนหนองบัวลำภูได้เป็นอย่างดี หลังจากเครือข่ายอนุรักษ์กระเจียวอุษาลำภู และวิสาหกิจชุมชนอุษาลำภู บ้านภูพานทอง เคยจัดงาน “กระเจียวอุษา จากไม้ป่าสู่พืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ชุมชนคนหนองบัวลำภู “เมื่อปีที่ผ่านมาสร้างกระแสการรับรู้และสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเป็นอย่างดี
นายอำพน ศิริคำ เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู ยังกล่าวต่อว่าสำหรับดอกกระเจียวอุษาลำภู ที่พบและก่อเกิดบนเทือกเขาภูพานคำน้อย และพื้นที่โดยรอบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพานที่ทอดตัวจากทิศตะวันออกของอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ถึงเทือกเขาภูเก้าในพื้นที่อำเภอโนนสังและรอยต่ออำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ไปจนถึงจังหวัดขอนแก่น ประมาณการขอบเขตการแพร่กระจายพันธุ์ครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า 150 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่เป็นถิ่นอาศัยประมาณ 12 ตารางกิโลเมตร พืชชนิดนี้สามารถขยายพันธุ์โดยวิธีการผ่าหัว การเพาะเมล็ด และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
กระเจียวอุษา หรือชาวบ้านเรียก ว่านพญาไก่ขัน เป็นไม้ดอกที่มีดอกขนาดใหญ่ จากลำต้นของกอกระเจียว ซึ่งการทอดยอดจะไม่เหมือนกระเจียวทั่วไปที่ชูดอกสูงเหนือใบ ลักษณะของดอกกระเจียวจะเป็นสีแดงเข้มสวยงามมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นไม้ดอกไม้ประดับในเชิงเศรษฐกิจ และไม้มงคล ปลูกไว้ก่อให้เกิดการสร้างอาชีพสร้างรายได้ อนาคต กระเจียวอุษา”ลำภู” จะเป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูงที่จะยกระดับรายได้ของชุมชนคนหนองบัวลำภูได้เป็นอย่างดี หลังจากเครือข่ายอนุรักษ์กระเจียวอุษาลำภู และวิสาหกิจชุมชนอุษาลำภู บ้านภูพานทอง
นายอำพนฯเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวเพิ่มเติมว่า กระเจียวอุษา หรือชาวบ้านเรียก ว่านพญาไก่ขัน ถูกประกาศให้เป็นพืชชนิดใหม่ของโลก เป็นพืชถิ่นเดียวของจังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อเดือนเมษายน 2563 โดยพบแพร่กระจายพันธุ์เฉพาะบริเวณจังหวัดหนองบัวลำภู และรอยต่ออำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เท่านั้นเติบโตได้ในดินปนทรายของป่าไผ่และป่าเต็ง รัง ที่ความสูง 200-500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
ซึ่งในเวลาต่อมาสำนักงานเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู เห็นว่ากระเจียวอุษา เป็นพืชที่ใกล้สูญพันธุ์และตลาดต้องการสูง เพื่อเป็นการอนุรักษ์และขยายพันธุ์และยกระดับรายได้ของเกษตรกร จึงได้จัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอุษาลำภู บ้านภูพานทอง ขึ้นเมื่อปี 2564 มีสมาชิก 10 ราย และมีเครือข่าย 6 อำเภอ จำนวน 23 ราย งานเกษตร แฟร์ ของดีเมืองลุ่มภูในครั้งนี้เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชนถึงความเป็นมาและความสำคัญของกระเจียวอุษา เพื่ออนุรักษ์และขยายพันธุ์กระเจียวอุษา พัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และประชาชนคนหนองบัวลำภู ภายในงานมีการประกวดกระเจียวอุษา ซึ่งจะมีผู้นำต้นกระเจียวอุษาที่ออกดอกสวยงามมาเข้าร่วมประกวดพร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอีกด้วย
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ขตว.หนองบัวลำภู
ข้อมูลทั่วไป
กระเจียว หรือ บัวสวรรค์ : ทั่วไป จัดเป็นไม้ดอกพื้นบ้านดั้งเดิม ที่อยู่ในวงศ์เดียวกับ ขิง ข่า ขมิ้น ฯลฯ “ใบ” จะงอกออกจากลำต้นใต้ดินในฤดูฝน โผล่ พ้นผิวดินขึ้นมา ประกอบด้วยก้านใบ (กาบใบ) ห่อรวมกันแน่นกลายเป็นลำต้นเทียม แล้วแยกออกจากกันเป็นก้านใบ และแผ่นใบ คล้ายกระชาย หรือขมิ้น สูงตั้งแต่ประมาณ 20-30 เซนติเมตร ขึ้นไปถึงราว 100 เซนติเมตร
“ดอก” ดอกกระเจียว จะโผล่ออกตรงกลางลำต้นเทียมเป็นดอกแบบช่อ ก้านช่อดอกยาวตรง มีดอกจริงอยู่รอบๆ ก้านดอก เป็นชั้นๆ ด้านนอกมีใบประดับดอกเป็นกลีบหนา และมีสีสวยงาม เช่น สีส้ม สีแดง สีขาว สีชมพู สีเขียว เป็นต้น ดอกกระเจียวจะออกดอกในช่วงฤดูฝน มีอายุบานอยู่บนต้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็จะเหี่ยวร่วงโรยไป แต่บางสายพันธุ์ก็อาจบานได้นานถึง 1 เดือน
สำหรับถิ่นกำเนิดของกระเจียว อยู่ในป่าทุกภาคของประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ อีสาน กลาง และใต้ โดยพบขึ้นอยู่หลากหลายในภาคเหนือ และภาคอีสาน มากกว่าภาคอื่น นอกจากนี้ยังพบในเพื่อนบ้านใกล้เคียง เช่น พม่า ลาว เขมร มาเลเซีย เวียดนาม ด้วย
ปัจจุบันกระเจียวกลายเป็นไม้ดอกที่มีชื่อเสียง ทั้งในพื้นที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ และการปลูกเป็นการค้า เป็นไม้ดอกในกระถาง ทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ เป็นไม้ดอกที่ส่งออกติดอันดับต้นๆ ของไทยอย่างหนึ่ง และมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นทุกปี เพราะส่งออกในรูปหัวซึ่งสะดวก และประหยัดกว่าการส่งออกเป็นต้นหรือดอก
.
Share this content: