ล่าโจรย่องเข้าบ้านแม่ค้าข้าวแกงลักกระเป๋าเงินลงทุนค้าขาย 8 พันบาท ซิ่งจยย.หนีลอยนวล






จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กในชื่อ Jeab Panatda ได้โพสต์คลิปชายคนร้าย พร้อมกับระบุข้อความว่า “ฝากเตือนภัยครับ บ้านแม่ผมเอง วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 09.30 น. ขณะที่แม่กำลังทำความสะอาดบริเวณหลังบ้าน ได้มีชายต้องสงสัยลอบเข้ามาขโมยกระเป๋าเงิน (มีเงินประมาณ 8,000บาท) ซึ่งวางอยู่ข้างในบ้าน โดยบ้านตั้งอยู่ติดถนน ตรงข้ามสำนักงานการไฟฟ้าอุดรธานี 1 ถนนอุดร–หนองสำโรง ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ TTX ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และหลบหนีไปทางถนนหนองสำโรง หากผู้ใดพบเห็นบุคคลหรือรถจักรยานยนต์ลักษณะดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแส หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยด่วน
ขอความกรุณาช่วยแชร์เพื่อป้องกันเหตุในพื้นที่ใกล้เคียงครับ” ล่าสุดผู้เสียหายได้นำหลักฐานคลิปกล้องวงจรปิด ขณะคนร้ายเข้ามาก่อเหตุและหลบหนี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.อิทธิพล มาลิกุล รอง สว.สอบสวน สภ.ย่อยนาข่า อ.เมืองอุดรธานี ไว้แล้ว
ต่อมาในเวลา 17.30 น.วันที่ 2 กรกฎาคม ร.ต.อ.อิทธิพล มาลิกุล รอง สว.สอบสวน สภ.ย่อยนาข่า อ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจงานป้องกันและปราบปราม เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เลขที่ 211/1 ถ.หนองสำโรง ม.8 บ.ไก่เถื่อน ต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 8 คูหา หลังรับแจ้งความจากนางรุ่งรัตน์ กรกัณฑ์ หรือเจ๊รุ่ง อายุ 52 ปี แม่ค้าข้าวแกงในตลาดโพศรี ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ผู้เสียหาย
พบ นางรุ่งรัตน์ และสามี พร้อมด้วยหลานสาววัย 4 ขวบ ยืนรออยู่ที่หน้าบ้าน จากนั้นก็ได้นำตำรวจตรวจสอบจุดที่วางกระเป๋าเงิน ที่เก็บไว้ในกระเป๋าหิ้วสีชมพู ซึ่งวางอยู่บนเตียงนอนชั้นล่าง ข้างในมีเงินสด 8,000 บาท บัตรเอทีเอ็ม ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ และสมุดบัญชีฝากเงินธนาคาร และชี้เส้นทางที่คนร้ายเข้ามาและหลบหนี คาดว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาทางถนนมิตรภาพ อุดรธานี-หนองคาย ผ่านหน้าบ้านไป แล้วขี่ย้อนกลับมาก่อเหตุ
ตอนเกิดเหตุขณะที่นางกำลังนั่งล้างผัก เตรียมวัตถุดิบทำกับข้าวไปขายตลาดในช่วงตอนเย็น หรือกับข้าวแลง และนั่งทำงานอยู่หลังบ้านอยู่คนเดียว ประมาณ 10 นาที ส่วนสามีไปดูแลความเรียบร้อยแผงขายกับข้าวที่ตลาด หลานสาวไปโรงเรียน แต่ตนก็เดินไปมาจากหน้าบ้านและหลังบ้านสลับกัน ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ากระเป๋าเงินถูกคนร้ายย่องเข้ามาลักเอาไป พอจะออกไปขายกับข้าว เวลา 15.00 น. พร้อมกับสามี ปรากฏว่าหากระเป๋าไม่เจอ จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดจากเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ก็พบคนร้ายเข้ามาก่อเหตุและหลบหนีไป โดยคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุเพียง 1 นาที
จากการตรวสอบกล้องวงจรปิด ระบุเวลา 09.33 น. วันที่ 1 กรกฎาคม คนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี รูปร่างท้วม สูงประมาณ 165-170 ซม. ผิวสีดำแดง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว สะพายกระเป๋าคาดอกสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์นี่ห้อยามาฮ่า รุ่น TTX สีขาวดำ ไม่ทราบหมาบเลขทะเบียน ขับย้อนศรวนมาจอดที่หน้าบ้านพักผู้เสียหาย แล้วเดินเข้ามามองเข้าไปในบ้าน ประมาณ 30 วินาที ก่อนเดินเข้าไปก่อเหตุ ประมาณ 23 วินาที ก่อนวิ่งกลับออกมาขี่รถหลบหนีไปทางสามแยกวงเวียนหนองสำโรง ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี
นางรุ่งรัตน์ฯ เปิดเผยว่า เงินที่คนร้ายขโมยเอาไป เป็นเงินหมุนเวียนในการค้าขายวันต่อวัน เมื่อคนร้ายขโมยไปแล้ว วันนี้ก็ไม่ได้ไปขายกับข้าว เพราะไม่มีเงินทุน วันนี้จึงไปหาหยิบยืมญาติมาไว้ลงทุน 5,000 บาท เพื่อไว้ซื้อของทำกับข้าวขายในวันพรุ่งนี้ และบ้านหลังนี้ก็เช่าอยู่ 6,000 บาท/เดือน ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ พูดง่ายๆว่าบ้านเช่าข้าวซื้อ และเช่าพักอาศัยมา 3 ปีแล้ว ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ได้ยินและเห็นแต่ในข่าว ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง อยากฝากถึงโจรให้ไปหาทำงาน อย่ามาทำแบบนี้ คนอื่นเขาก็ลำบากเหมือนกัน ยิ่งช่วงนี้เศรฐกิจไม่สู้ดี และเป็นช่วงหน้าฝนด้วย ขายกับข้าวบางวันก็ขายไม่หมด แถมมีหนี้สินอีก เพราะทุกคนก็มีหนี้สินกัน แต่ก็ต้องหาเพื่อปากท้อง
“ไม่ใช่มาขโมยเอาไปง่ายๆ แบบนี้ เหมือนชุบมือเปิบ ไม่ยอมลงทุนลงแรง เอาแต่หาขโมยของคนอื่นกิน ต่อไปเวลาตนอยู่คนเดียว และต้องไปทำงานอยู่หลังบ้าน ก็ต้องปิดประตูเอาไว้ ที่ผ่านมาตนก็ปิดไว้เป็นบางครั้ง แต่เมื่อวานไม่ได้ปิดไว้ และคิดว่าคงไม่มีอะไร เพราะเป็นช่วงกลางวัน และให้ชาวอุดรธานี และทุกหนแห่งให้เฝ้าระวัง เพราะโจรมันเยอะ เพราะไม่รู้จักทำมาหากิน คนตกงานก็มีบ้าง อีกทั้งติดยาเสพติด และติดการพนันด้วย เจ็บใจมากหากตำรวจจับตัวได้ จะด่าให้แสบๆเลย ขอให้ตำรวจจับตัวมาให้ได้ไวๆ เกรงว่าจะไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนกับคนอื่นอีก หากยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ สงสัยโจรมันเป็นคนขี้เกียจสันหลังยาว หรือเป็นคนขี้ค้านที่ชาวอีสานเรียกกัน”.
Share this content: