ผู้ว่านำนิติกรสำนักงานจังหวัด แจงคืบหน้าคดีลูกจ้างยักยอกเงินงบประมาณไปเล่นการพนันออนไลน์มูลค่าเกือบ 40 ล้านบาท หลังครบ 5 ปี เต็ม

ประจวบฯ ผู้ว่านำนิติกรสำนักงานจังหวัด แจงคืบหน้าคดีลูกจ้างยักยอกเงินงบประมาณไปเล่นการพนันออนไลน์มูลค่าเกือบ 40 ล้านบาท หลังครบ 5 ปี เต็ม

   วันที่ 16 มิถุนายน 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 30 ปี อดีตพนักงานราชการ สำนักงาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.63 หลังจากนำเงินงบประมาณของราชการเกือบ 40 ล้านบาท โอนผ่านระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS อ้างว่านำเงินจากการทุจริตไปเล่นพนันออนไลน์ ต่อมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม มีคำสั่งปล่อยตัว น.ส.ขนิษฐา พ้นการคุมขังจากเรือนจำกลาง จ.สมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 13 ก.ย.63 หลังครบกำหนดฝากขัง 7 ผลัด รวม 84 วัน ขณะที่ล่าสุดอัยการคดีทุจริตภาค 7 ยังไม่สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย

    ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องนี้ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้นำหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงาน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดการแถลงข่าวคืบหน้าของการทำงานขับเคลื่อนนโยบาย Next Move 10 ข้อ ต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมหาดทอง อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในประเด็นที่ผู้สื่อข่าวติดตามทวงถามแทนประชาชนถึงความคืบหน้าคดีลูกจ้างสำนักงานจังหวัดประจวบฯยักยอกเงินภาษีอ้างว่านำไปเล่นการพนันมูลค่าเกือบ 40 ล้านบาท ในเรื่องนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย นายณัฐดนัย ภิญโญ นิติกรชำนาญการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีความ หลังจากครบ 5 ปี

      นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่า ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนั้นตนเองดำรงตำแหน่งเป็นปลัดจังหวัด และได้ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการละเมิด ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว ในส่วนขั้นตอนการดำเนินการต่างๆก็ได้ดำเนินการไปตามระบบในการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆส่งให้อัยการจังหวัด จะส่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ปัจจุบันทราบว่าเรื่องยังอยู่ที่อัยการจังหวัด ซึ่งในส่วนของทางจังหวัดเองก็ไม่สามารถละลาบละล้วงถึงขั้นตอนการสั่งฟ้องต่างๆได้ ส่วนในเรื่องของการดำเนินการทางวินัยส่วนนี้เรื่องอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ทางปลัดกระทรวงได้ตั้งผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำเนินการสอบสวนอยู่ ซึ่งขณะนี้ในส่วนของทางจังหวัดประจวบฯไม่ได้เกี่ยวข้องแล้ว เป็นหน้าที่ของอัยการศาลและทางกระทรวงมหาดไทย หากยังขาดในเรื่องของพยานหลักฐานต่างๆก็จะสั่งไปทางตำรวจให้หาหลักฐานเพิ่ม แต่เท่าที่ทราบผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆในคดีนี้ก็ได้ดำเนินการรับโทษตามระเบียบกันไปหมดแล้ว        นายณัฐดนัย ภิญโญ นิติกรชำนาญการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า คดีนี้ขอชี้แจงใน 3 ประเด็น ประเด็นที่ 1.การดำเนินการทางวินัย ส่วนนี้มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 2 ส่วน คือ กระทรวงมหาดไทยกับจังหวัดประจวบฯ ทั้งสองส่วนนี้ได้ดำเนินการทางวินัยเสร็จสิ้นหมดแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ถูกลงโทษตามกระบวนการครบถ้วนแล้ว ประเด็นที่ 2.ทางคดีอาญา หลังจากเกิดเหตุได้มีการแจ้งความดำเนินคดีทางพนักงานสอบสวนได้ส่งให้สำนักงานอัยการทุจริตภาค 7 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการ ในส่วนประเด็นที่ 3.การรับผิดทางละเมิด ซึ่งทางจังหวัดได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรุปสำนวนเสร็จสิ้นแล้วส่งให้กระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง เพื่อตรวจสอบตามกระบวนการ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาของกรมบัญชีกลาง สำหรับในส่วนของทางแพ่ง ในเรื่องของเช็คปัจจุบันทางจังหวัดได้ประสานไปทางสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการ เพราะทางธนาคารก็เป็นหน่วยงานราชการเช่นเดียวกัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด สำหรับผู้ก่อเหตุ ปัจจุบันเท่าที่ทราบถูกปล่อยตัวแล้วเนื่องจากหมดอำนาจการฝากขัง  ส่วนในเรื่องของค่าชดเชย หรือชดใช้  ค่าสินไหมทดแทนนั้น มีบางส่วนที่ผู้เกี่ยวข้องได้ชดใช้มาบ้างแล้ว และยังมีอีกบางส่วนที่ยังไม่ได้ชดใช้ ก็จะเป็นเรื่องของการบังคับทางปกครองต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางยืนยันข้อเท็จจริงมาอีกครั้ง เพื่อป้องกันความผิดพลาด

//////////////////////หมายเหตุ: มีเสียง 1.นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ 2.นายณัฐดนัย ภิญโญ นิติกรชำนาญการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งมาด้วย