เสี้ยวชีวิตพลเมืองดีช่วยสาวกระโดดสะพาน










******** แม่วัย 32 ป่วยจิตเวช ตัดสินใจยอมไม่กินยารักษา เพราะกลัวลูกสาววัย 10 เดือนที่ต้องเปลี่ยนมากินนมแม่ อาจมีผลข้างเคียงเพราะฤทธิ์ยา หลังไม่มีเงินซื้อนมกระป๋องให้ลูกสาวกิน สาเหตุเพราะเพิ่งถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรง จึงถูกไล่ออกจากห้องพักเพราะไม่มีเงินนำไปจ่ายเช่า ตัดสินใจเดินทางมาพักที่บ้านญาติของสามีที่ฉะเชิงเทรา ก็พบว่ามีสภาพไม่ต่างกัน 15 ชีวิตในบ้านเหลือข้าวสารไม่ถึงกระป๋องที่จะหุงมื้อต่อไป จึงตัดสินใจเดินออกมาจากบ้านกว่า 6 กิโล หวังไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ แต่พอถึงสะพานอารมณ์เกิดทิ้งดิ่งชั่วขณะหวังโดดสะพานฆ่าตัวตาย ก่อนจะมีพลเมืองดีมาเห็นและให้การช่วยเหลือ
******** นี่เป็นภาพจากกล้องหน้ารถ เผยให้เห็นพลเมืองดีพาหญิงสาวลงมาจากสะพานข้ามคลองท่าไข่ หลังตลาดบ่อบัว อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งก่อนหน้านี้หญิงคนดังกล่าวได้ขึ้นไปนั่งเป็นราวสะพานและกำลังจะกระโดดลง แต่พลเมืองดีรีบจอดรถเข้าไปช่วยไว้ ก่อนพาตัวขึ้นรถไปสงบสติอารมณ์ที่หน้าศูนย์การเรียนรู้เมืองฉะเชิงเทรา ( KCC) /// โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงบ่ายของวันนี้ (08 มิ.ย.68) พ.ต.ท.อรรณพ จันทร์ภักดี สวป.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เข้าตรวจสอบบริเวณสะพานข้ามคลองท่าไข่ หลังตลาดบ่อบัว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบหญิงสาวขึ้นไปนั่งบนราวสะพาน หวังก่อเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบไม่พบหญิงคนดังกล่าว พบเพียงรองเท้าแตะ 1 คู่ถอดไว้บนถนนทางเดินขึ้นสะพาน เจ้าหน้าที่พยายามตรวจสอบ ก่อนจะมีชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่งแจ้งกลับขึ้นมาว่า หญิงคนดังกล่าวมีคนช่วยไปแล้ว ก่อนจะได้รับการประสานว่าหญิงคนดังกล่าว นั่งอยู่หน้าหน้าศูนย์การเรียนรู้เมืองฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบ ก่อนพบผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.สุทธิดา เพ็ชรศรี อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสาน ว่าที่ร้อยตรีศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา และ น.ส.เมธาวี บุญพิทักษ์ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมตรวจสอบ ก่อนจะเดินทางพา น.ส.สุทธิดา ไปยังบ้านพักเลขที่ 110/6/5 ม.17 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว น.ส.สุทธิดา ได้มาขออาศัยอยู่ซึ่งเป็นบ้านญาติของสามีได้เพียง 3 วัน สภาพบ้านชั้นเดียว แต่ต่อเติมแยกออกเป็นหลังๆ ผุพัง หลังคาสังกะสีเป็นรู บริเวณพื้นบ้านมีน้ำท่วมขัง ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่รวมกันถึง 15 คน โดยทุกคนในบ้านเป็นญาติๆ ลูกพี่ลูกน้องกัน ไม่มีอาชีพประจำ ทำงานรับจ้างทั่วไป โดยสภาพความเป็นอยู่โดยรวมแออัด ซึ่งผู้สื่อข่าวสำรวจพบว่า ทั้งบ้านจะกินข้าวหม้อเดียวกัน พอดูถังข้าวสารกับพบว่า เหลือข้าวสารไม่ถึงถ้วยในการถุงข้าวครั้งต่อไป โดยทุกคนอยู่กันอย่างลำบากอดมื้อกินมื้อ /// น.ส.สุทธิดา เปิดเผยว่า ตนเองทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดในโรงแรมม่านรูด ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ตอนแรกได้เงินเป็นรายวัน แต่ตนเองอยากได้เงินเป็นก้อน จึงได้พูดคุยกับเจ้าของโรงแรมให้ช่วยกับเงินที่ตนเองทำงานไว้ และขอเบิกเงิน เป็นรายอาทิตย์ พอหลังๆหนักๆเข้า เจ้าของโรงแรมกลับปฏิเสธตนว่า ยังไม่มีเงินจ่าย อีกจำนวน 6,300 บาทตนเองก็ขอร้องเพราะไม่มีเงินกิน เงินซื้อนมให้ลูก และไม่มีเงินจ่ายค่าห้องพัก จนสุดท้ายแล้วตนเองถูกเบี้ยวไม่ได้รับเงินค่าจ้าง จึงถูกไล่ออกจากห้องพัก สามีจึงชวนตนกลับมาขออาศัยอยู่ที่บ้านญาติในจังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนสาเหตุที่ตนเองไม่ให้นมแม่ กับลูกสาววัย 10 เดือนนั้น เนื่องจากตนเองป่วยเป็นจิตเวช ต้องกินยารักษาอาการมาโดยตลอด แต่พอไม่มีเงินกลัวลูกหิวเพราะไม่มีเงินมาซื้อนม จึงหยุดกินยาเพื่อให้ลูกได้กินนมตนเองแทน กระทั่งมาอยู่ที่ฉะเชิงเทรา ก็เกิดความเครียดเนื่องจากครอบครัวตนไม่มีเงินติดตัวสักบาท แถมต้องมาอาศัยเข้าอยู่ ซึ่งบ้านที่อยู่ก็ยากจนลำบาก ไม่มีข้าวสารจะหุงต่อมื้อถัดไป ตนเองจึงเกิดความเครียดสะสมเพราะไม่ได้กินยามาหลายวันแล้ว ตัดสินใจเดินออกมากะว่าจะไปขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา แต่พอเดินมาถึงสะพานข้ามคลองท่าไข่ ห่างจากบ้านพักประมาณ 6 กิโลเมตร ก็เกิดอารมณ์ชั่ววูบทิ้งดิ่งออกมา เลยอยากขึ้นไปกระโดดสะพานให้เรื่องทุกอย่างมันจบๆ ไป แต่พอมีคนมาช่วยตั้งสติได้ จึงนึกถึงลูกสาววัย 10 เดือน เลยยอมลงมานั่งสงบสติอารมณ์ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำไข่ดิบ ไข่ต้ม ข้าวสาร นมและแพมเพิส มาช่วยเหลือในวันนี้เบื้องต้นแล้ว /// ว่าที่ร้อยตรีศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ในส่วนของบ้านพักเด็กนั้นวันนี้ได้นำเครื่องอุปโภค บริโภคมาช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน และจะสนับสนุนเรื่องของนมมาให้ตลอดระยะเวลาที่ดูแล นอกจากนี้จะให้นักสังคมสงเคราะห์ พาน.ส.สุทธิดา ไปประเมินตรวจสุขภาพจิตที่โรงพยาบาลพุทธโสธร โดยทำการนัดแพทย์ผู้ตรวจและจะพาน.ส.สุทธิดา ไปในภายหลัง ///// น.ส.เมธาวี บุญพิทักษ์ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ในส่วนของ พม.นั้นจะช่วยเหลือเรื่องเงินสงเคราะห์ฉุกเฉินจำนวน 3 พันบาทให้กับครอบครัวนี้นำไปใช้จ่ายเบื้องต้น และจะประสาน อบต.ท่าไข่ ร่วมลงพื้นที่ปรับสภาพบ้านเพื่อความเป็นอยู่ที่ถูกสุขลักษณะ เนื่องจากในบ้านมีผู้สูงอายุและผู้พิการ และจะติดตามในเรื่องเงินสงเคราะห์บุตรที่แม่ของเด็กต้องได้รับ เป็นการช่วยเหลือเนื่องจากแม่ของเด็กทำเรื่องในการเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ก่อนหน้านี้ และนอกจากนี้จะประสานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด เนื่องจาก น.ส.สุทธิดา ถูกนายจ้างโกงเงินค่าแรงมาจากจังหวัดชลบุรี
08-06-68 ฉะเชิงเทรา ////
Share this content: