เปิดปฏิบัติการ “ห้ามไก” ส่งสายนำปืนไปให้แต่งก่อนบุกรวบเจ้าของคาร้านพบอะไหล่ปืนเพียบ






วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ที่จังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ร้อยตำรวจเอก เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าฯ นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัด และนายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี นายอำเภอกระทุ่มแบน ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง ร่วมกับ สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง โดยการนำของ นายรัฐวิช จิตรสุจริตวงษ์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย นายจตุนันท์ จอมทัน ปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ตัริมถนนสายใยรัก ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์และอะไหล่อาวุธปืน อุปกรณ์ตกแต่งปืน ทั้งนี้จากการตรวจสอบร้านดังกล่าว ทางเจ้าของร้านไม่สามารถแสดงใบอนุญาต ป 5 ได้ (ใบอนุญาต ให้ทำประกอบซ่อมแซมหรือจำหน่าย อาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนสำหรับการค้า) พร้อมกันนี้ยังพบอาวุธปืน อุปกรณ์และอะไหล่ปืน ของตกแต่งปืนรวมจำนวนมาก เบื้องต้น ประกอบด้วย อาวุธปืนลูกซอง จำนวน 2 กระบอก,ปืนพกสั้น 1 กระบอก ,อุปกรณ์ชุดลั่นไก 24 ชิ้น , เครื่องลูกเลื่อน 17 ,สปริงนกสับ 21 ชิ้น,ขอรั้งปลอก 3 ชิ้น , สปริงเข็มแทงชนวน 15 ชิ้น ,สปริงแม็กกาซีน 3 ชิ้น และหน้าไกตรง 1 ชิ้น
ทางชุดปฏิบัติการพิเศษฯ จึงได้รวบรวมอุปกรณ์ดังกล่าวไว้เป็นพยานหลักฐาน พร้อมกับมีการแจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้นว่า 1. “จำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000 – 40,000 บาท,2. ”ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ มีหรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000 – 40,000 บาท และ 3. “มีส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนตามที่กำหนดในกฎกระทรวงไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งได้ลงพื้นที่มาพร้อมกับชุดปฏิบัติการพิเศษ เพื่อควบคุมการปฏิบัติการ “ห้ามไก” 1 ใน 3 ของพื้นที่เป้าหมายกรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า สำหรับปฏิบัติการ “ห้ามไก” นี้ กรมการปกครอง ภายใต้การสั่งการของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มอบหมายให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบสถานที่ ที่มีพฤติการณ์เปิดเป็นร้านจำหน่ายชิ้นส่วนอาวุธปืน และซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรสาคร รวม 3 จุดพร้อมกัน เพื่อเป็นการจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งการปรับเปลี่ยนหรือตกแต่งชิ้นส่วนอาวุธปืน แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อนำไปประกอบกันก็สามารถเป็นปืนที่ใช้งานได้ และหากมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์บางชิ้นส่วนแล้วนำไปใช้ก่อเหตุ ก็ทำให้ยากต่อการสืบหาตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษทางกฎหมายได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องมีการควบคุมกันอย่างเข้มข้นและจริงจัง ห้ามผู้ใดละเมิดฝ่าฝืนกระทำการโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ จึงขอเตือนไปยังผู้ที่กระทำการในลักษณะนี้ ให้หยุดการกระทำนั้นเสีย แต่หากยังทำผิดต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทางเจ้าหน้าที่ฯ ก็จะติดตามจับกุมมาได้อย่างแน่นอน
ด้าน นายรัฐวิช จิตรสุจริตวงษ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมายฯ กรมการปกครอง กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของผู้ที่ถูกจับกุมรายนี้ สืบเนื่องจากร้านนี้เป็นพื้นที่เป้าหมายรายสำคัญ โดยก่อนหน้านี้ทางสายลับได้ทำการล่อซื้อ เพื่อขอให้ร้านค้าทำการเปลี่ยนหน้าไกปืน ในราคา 3,600 บาท ซึ่งได้ชำระเงินมัดจำบางส่วนด้วยการโอน และชำระเป็นเงินสดอีกจำนวน 3,000 บาท จากการตรวจค้น พบปืนของกลางหลายรายการ จึงได้ควบคุมตัวเจ้าของร้านและอุปกรณ์ของกลางทั้งหมดไปทำบันทึกการจับกุม ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินการตามกฎหมาย
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยังฝากเตือนด้วยว่า “เข้าใจว่าสังคมในทุกวันนี้ การใช้อาวุธปืนเป็นที่ได้รับความสนใจจากแวดวงกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ทั้งเป็นกิจกรรมและเพื่อการกีฬา แต่จากกระแสของสังคมในยุคปัจจุบัน การจะศึกษาวิธีใช้อาวุธปืนของกลุ่มผู้ที่สนใจ มักมุ่งความสนใจไปที่ผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ เช่น ดารา หรือ อินฟลูเอนเซอร์ ผมมีความกังวลใจเป็นอย่างมาก ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายและพ่อเมืองสมุทรสาคร จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ที่สนใจและชื่นชอบการใช้อาวุธปืน ให้เรียนรู้ขั้นตอนวิธีการและขอบเขตตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง และเพื่อความปลอดภัยของสังคม“
ทีมข่าวสมุทรสาคร
Share this content: