ปราจีนบุรี-อบต.กบินทร์ อนุรักษ์ประเพณีอันดีงามประเพณีสู่ขวัญควาย ไม่ให้สูญหาย

ปราจีนบุรี-อบต.กบินทร์ อนุรักษ์ประเพณีอันดีงามประเพณีสู่ขวัญควาย ไม่ให้สูญหาย

*****วันที่ 24 พ.ค. 68  องค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี บริเวณลานหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ ได้จัดพิธีสู่ขวัญควาย ชิงชัยกระบือบาลภาคตะวันออก ครั้งที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้เป็นประธานในพิธี และมี ดร.บังอร วิลาวัลย์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี ,นายธรรมรัฏฐ์ งามแสง นายอำเภอกบินทร์บุรี , วัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี หัวหน้าส่วนราชการอำเภอกบินทร์บุรี ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชนร่วมพิธี 

*****นายถัน นามพิลา รองนายก อบต.กบินทร์ กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์และกรมอนุรักษ์ และพัฒนาควายไทยตำบลกบินทร์ เล็งเห็นความสำคัญจึงได้ส่งรายงานข้อมูลประเพณีสู่ขวัญควาย เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาการจัดงานประเพณี ขององค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการพิจารณาการจัดงานประเพณี ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ได้มีมติเห็นชอบให้ประเพณีสู่ขวัญควาย ตำบลกบินทร์ เป็นประเพณีขององค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ ประกาศ ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 องค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ จึงจัดทำโครงการประเพณีสู่ขวัญควายตำบลกบินทร์ ประจำปี 2568 ขึ้น

*****วัตถุประสงค์ เพื่อให้เกษตรกรผู้เรียนกระบือได้สืบทอดประเพณีอันดีงามในการอนุรักษ์ประเพณีสู่ขวัญควายไทย ส่งเสริมเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรที่เลี้ยงโค-กระบือได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันทั้งในและนอกพื้นที่ตำบลกบินทร์  เพื่อให้เกษตรกรทั่วไปเล็งเห็นความสำคัญ ผลักดันการเลี้ยงโค-กระบือ ให้เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ และเป็นทางเลือกของเกษตรกร ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและปริมาณการผลิตกระบือพันธุ์ดี ส่งเสริมการท่องเที่ยวเผยแพร่อนุรักษ์วัฒนธรรม และส่งเสริมเศรษฐกิจของท้องถิ่น

*****ภายในงานมีพิธีสงฆ์ สวดเจริญพระพุทธมนต์ มีการสาธิตการใช้ควายไถนา / หว่านข้าว การแสดงของกลุ่มนางรำ การแสดงกลองยาว พิธีพราหมณ์ ทำบายศรีสู่ขวัญ เรียกขวัญควาย มีการผูกได้สายสิญจน์เรียกขวัญควาย ภายในงานมีการประกวดควายภายในจังหวัดภาคตะวันออก ชิงถ้วยรางวัล มีการชิงชัยทั้งหมด 8 รุ่น ได้แก่ 1). ชิงชัยกระบือบานเพศเมีย รุ่นอายุไม่เกิน 18 เดือน 2). ชิงชัยกระบือบานเพศผู้ รุ่นอายุไม่เกิน 18 เดือน 3).ชิงชัยกระบือบันเพศเมีย รุ่นอายุไม่เกิน 2.6 ปี 4).ชิงชัยกระบือบาลเพศผู้ รุ่นอายุไม่เกิน 2.6 ปี 5).ชิงชัยกระบือบาลเพศเมีย รุ่นอายุไม่เกิน 3.6 ปี 6).ชิงชัยกระบือบานเพศผู้คนอายุไม่เกิน 3.6 ปี 7).ชิงชัยกระบือบาลเพศผู้ คนอายุไม่เกิน 4.6 ปี 8).ชิงชัยกระบือบานยอดเยี่ยมเพศผู้ / เมีย (Grand champion)

***** นายถัน นามพิลา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ประเพณีการสู่ขวัญควายเป็นการเตือนสติ เตือนจิตร เตือนใจ ให้คนมีความกตัญญูกตเวทีรำลึกนึกถึงบุญคุณ ของผู้ที่ได้ช่วยเหลือก็ควรแก่ตนเพื่อแสดงการตอบแทนบุญคุณ เช่น “ควาย” คนได้ใช้แรงงานในการไถ่คาดเพื่อหวาดเพาะปลูกข้าว ปลูกพืชผัก จนได้รับผลประโยชน์จากแรงงานของควาย คือได้ข้าวสำหรับบริโภคเลี้ยงชีวิต ในขณะที่คนได้ไถคาด บางทีก็ดุด่าเฆี่ยนตีควายโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อคนระลึกบุญคุณของควายซึ่งเป็นสัตว์ที่มีบุญคุณ ชาวนาจึงหาวิธีจะตอบแทนคุณของควาย ขออโหสิกรรมต่อควายโดยวิธีสู่ขวัญควาย ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีการสู่ขวัญควายให้คงอยู่สืบต่อไปมิให้สูญหาย 

*****ทางด้าน นายวีระพันธ์  ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่จัดให้มีโครงการประเพณีสู่ขวัญควายตำบลกบินทร์ ประจำปี 2568 นี้ และวันที่ 14 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์ควายไทยประเพณีสู่ขวัญควายไทย ก็เป็นการรำลึกนึกถึงบุญคุณของควาย ที่ให้ใช้แรงงานซึ่งในอดีตเกษตรกรใช้แรงงานควาย ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งบางครั้งอาจมีการดุด่าเฆี่ยนตี การจัดพิธีสู่ขวัญควายจึงเป็นการขอขมาที่ล่วงเกินไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการประเพณีสู่ขวัญควายตำบลกบินทร์ประจำปี 2568 ในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูประเพณีสู่ขวัญควายให้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับเกษตรกร ผู้เลี้ยงควายไทย และเป็นการอนุรักษ์ประเพณีการสู่ขวัญควาย ให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงประเพณีอันดีงามสืบต่อไป ////////////ณัฐวัฒน์  กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี