ลำปาง-สุดเลวขนาดไหนลูกชั่วข่มขืนแม่ตัวเองแท้ๆหลังพ้นคุกยังไม่ถึง2ปี







เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 พ.ค.2568 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.เกะคา จ.ลำปาง อำนวยการโดย พ.ต.อ.กฤษฎา พงษ์สุวรรณ ผกก.สภ.เกาะคา พ.ต.ท.ดร.ภัทรวุฒิ อัครภัทร รอง ผก.สส.ฯ ส่งการชุดตำรวจ สภ.เกาะคา จับกุม นายติ่ง อายุ 49 ปี ชาวบ้านนาแก้วตะวันออก ต.นาแส่ง อ.เกาะคา ขณะนอนหลับอยู่ในบ้าน หลังจากนางนีย์ อายุ 73 ปี ผู้เป็นแม่เดินทางเข้าแจ้งความ ถูกนายติ่งซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆ ข่มขืน เมื่อกลางดึกวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 15 พ.ค.2568 พ.ต.ต. ชยณัฐ เตชะผาติกุล. สว.(สอบสวน) สภ.เกาะคา จ.ลำปาง ได้รับแจ้งจากนางนีย์ว่า ถูกนายติ่งลูกชายข่มขืนระหว่างทาง ขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน เหตุเกิดบนถนนเส้นทางลัดสาย อ.เกาะคา-นาแก้ว-อ.สบปราบ ช่วงเวลา 20.00-23.00 น.วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา
จากการสอบถามนางนีย์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2568 ได้ไปเยี่ยมบ้านป้าที่บ้านผึ้ง อ.เกาะคา และจะนอนค้างคืน จึงโทร.บอกนายติ่งซึ่งเป็นลูกชายว่าจะนอนที่บ้านป้า แต่นายติ่งไม่ให้นอนจึงขับขี่รถ จยย.ไปรับเมื่อเวลา 20.00 น.แต่ไม่ขับมาตามเส้นทางปกติ ขับขี่อ้อมไปทางลัดเข้า อ.สบปราบ ซึ่งผ่านป่าทางมืดและไม่มีไฟฟ้า ตนจึงถามว่าทำไมจึงขี่รถอ้อมมาทางนี้ เมื่อถึงที่เกิดเหตุระหว่างกลางทาง นายติ่งได้จอดรถอ้างว่าน้ำมันหมดคาดว่าไม่เมาและวางแผนมาอย่างดี
จากนั้นได้ลากแขนตนและผลักลงนอนข้างทาง จึงถามว่าจะทำอะไร นายติ่งบอกว่า ขอเถอะ ตนจึงจึงบอกว่านี่แม่นะพร้อมกราบขอ 10 กว่าครั้ง แต่นายติ่งไม่ฟังเสียงผลักตัวลงนอนแล้วใช้แขนศอกทับหน้าอกตนไว้แล้วถอดกางเกงในข่มขืน ตนพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครได้ยินเนื่องจากอยู่ในป่าเสร็จแล้วยังนอนทับตัวเองไว้ คิดว่าตนเองต้องตายแน่ จึงพูดกับลูกว่ากลับบ้านไปทำที่ห้องนอนแม่ดีกว่า ไม่ต้องนอนกลางป่าและมืดด้วย นายติ่งจึงยอมปล่อยตัวและบอกว่าห้ามบอกใคร ตนจึงโทร.จ้างให้หลานญาติข้างบ้านขี่รถ จยย.มารับกลับบ้านโดยนายติ่งขี่รถ จยย.ตามมาถึงบ้านเมื่อเวลา 23.00 น.แล้วเข้าไปนอน
ส่วนตนจึงบอกเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าวกับหลานที่ไปรับและดินทางมาแจ้งความตำรวจ สภ.เกาะคา เมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้และไปตรวจร่องรอยข่มขืนไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั่งตำรวจมาจับกุมตัวนายติ่งขณะนอนหลับอยู่บนบ้าน ด้วยท่าทีที่เรียบเฉย และยอมรับว่าก่อเหตุจริง จึงขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะทำได้แม้กระทั่งแม่ตัวเอง และไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน
นางนีย์ กล่าวอีกว่า นายติ่งลูกชายมีครอบครัวเลี้ยงลูกจนโตทำงานกันหมดแล้วที่ จ.นนทบุรี ต่อมานายติ่งโดนคดีอั้งยี่ซ่องโจรจำคุก 10 ปีที่กรุงเทพฯและได้เลิกกับภรรยา หลังพ้นคุกออกมาเมื่อเดือน พ.ย.2566 ที่ผ่านมา ได้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คน คิดว่าจะมาทำงานเลี้ยงดูแม่ กลายเป็นตนเองต้องหาเลี้ยง ลูกอยู่บ้านกินกับนอน แล้วก็ดื่มเหล้า พูดจาด่าแม่ ตนเองก็รักเพราะเป็นลูก ทำกับข้าว ชงกาแฟ กินทุกวัน หวังให้ลูกเป็นคนดี จนกระทั่งเกิดเรื่องดังกล่าวไม่คิดว่าลูกจะทำกับแม่อย่างนี้เสียใจมาก.
วินัย/ลำปาง รายงาน.
Share this content: