รัฐมนตรี พิพัฒน์ฯ ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดหน่วยแรงงานเคลื่อนที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานทุกกลุ่มอาชีพ ย้ำให้ความสำคัญกับแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ ส่วนการขาดแคลนแรงงานด้านสปา ทางกรมพัฒนามือแรงงานได้ดำเนินการเปิดให้มีการฝึกอบรมแล้ว












วันนี้(18 เม.ย.68) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำคณะลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งในระดับสถานประกอบการและระดับชุมชน เพื่อผลักดันการดูแลแรงงานอย่างรอบด้าน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม
โดยในช่วงเช้าลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) โรงงานพุนพิน เพื่อส่งเสริมต้นแบบ “สถานประกอบการคุณภาพ” ที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิการแรงงาน การพัฒนาทักษะ และการจัดการแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมเยี่ยมชมศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวราชดำริของรัชกาลที่ 9 ที่นำที่ดินภายในโรงงานจำนวน 3 ไร่มาทำพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิไชยา ปลูกผักสวนครัว เพื่อให้พนักงานในโรงงานสามารถนำเอาวิชาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือนำไปปฎิบัติที่บ้านของตนเองได้อย่างเหมาะสม จากนั้นในช่วงบ่ายได้เดินทางไปเปิดกิจกรรม “ศูนย์แรงงานอำเภอเคลื่อนที่ให้บริการด้วยรอยยิ้มสู่ชุมชน”หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพอิสระ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารตำบลท่าเคย อ.ท่าฉาง ซึ่งเป็นการดึงศักยภาพบัณฑิตแรงงานในพื้นที่มาร่วมให้บริการแรงงานและประชาชนอย่างครบวงจร ทั้งการฝึกอาชีพ การให้คำปรึกษา การซ่อมบำรุงอุปกรณ์อาชีพ รวมถึงให้ความรู้สิทธิประโยชน์ด้านแรงงาน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการประทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับแรงงานทุกกลุ่ม ทั้งในระบบและนอกระบบ การส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำ มีทักษะ และได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างทั่วถึง ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การทำงานด้านแรงงานไม่ใช่แค่เรื่องนโยบาย แต่คือการลงไปถึงชุมชนจริงๆ
สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารตำบลท่าเคย ซึ่งเป็นเจ้าบ้านในกิจกรรมนี้ มีจุดเด่นด้านการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นผสมภูมิปัญญาอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี มีสมาชิกกว่า 76 คน โดยกว่าครึ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 และจดทะเบียนเป็นกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ซึ่งกิจกรรมในวันนี้สะท้อนถึงนโยบายเชิงรุกของกระทรวงแรงงาน ในการดูแลแรงงานไทยทุกระดับ ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และชุมชน เพื่อให้คนไทยมีงานทำ มีหลักประกัน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน.
ส่วนเรื่องการขาดแคลนแรงงานกิจการสปา ในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ทางกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ร่วมกับทางจังหวัดและผู้ประกอบการ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงเรื่องความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจสปาแอนด์เวลเนสไทยสำหรับระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ระหว่างสถาบันภาคีเครือข่าย ซึ่งขณะนี้ได้มีผ็ที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรมทั้งที่เป้นพนักงานของสปาเองหรือคนนอกที่จะเอาวิชาความรู้ด้านสปาไปเปิดให้บริการ ซึ่งมีผู้สนเข้าร่วมประมาณ 400 คน คาดว่าในอนาคตแรงงาด้านสปาก็จะมีเพียงพอกับความต้องการของนักท่องเที่ยว
Share this content: